Last Updated on 15/08/2022
จุดขายหุ้น เรื่องสำคัญที่มักถูกมองข้าม
หลายคนเริ่มต้นศึกษาหุ้นมักจะมีคำถามว่าเราควรซื้อหุ้นตัวไหน? จะเอาข้อมูลอะไรมาประเมินดี?
แต่ในความเป็นจริงนั้น การซื้อหุ้นตัวไหน ตอนไหน สำคัญพอๆกับการขายหุ้น
เพราะถ้าซื้อแล้วจนหุ้นขึ้นไปถึงจุดสูงสุดแล้วแต่ไม่ยอมขาย จะทำให้เสียโอกาส หรือบางครั้งจากกำไรกลายเป็นขาดทุนได้เลยก็มี
เวลาไหนควรขายหุ้นตัวไหนนั้น จริงๆแล้วดูได้ทั้งแบบพื้นฐานและแบบกราฟเทคนิค
กราฟเทคนิคจะดูง่ายกว่าในกรณีที่เป็นมือใหม่ หรืออาจจะไม่ได้ศึกษาหุ้นตัวที่กำลังดูอยู่นั้นมากพอจนสามารถประเมินในเชิงพื้นฐานได้
Climax Top คืออะไร?
Climax Top เป็นรูปแบบกราฟที่ใช้กันบ่อยและถือเป็นรูปแบบที่คลาสสิคมากๆ ในการเอามาดูว่าหุ้นตัวนั้นขึ้นถึงจุดสูงสุดหรือยัง
คนส่วนใหญ่มักจะชอบคิดว่าราคาหุ้นที่ตกลงมานั้นมันถูกและเข้าไปซื้อสวน แต่ในความเป็นจริงคือมันจบรอบแล้ว
Climax Top เกิดขึ้นเมื่อหุ้นขึ้นเป็นระยะเวลาติดต่อกันหลายเดือน
แล้วอยู่ดีๆก็ดีดตัวขึ้นอย่างรุนแรง และรวดเร็วกว่าจังหวะเดิมที่เป็นมา
หุ้นตัวนั้นกลายเป็นหุ้นที่นักลงทุนและนักวิเคราะห์พูดถึง
หลายๆครั้งกลายเป็นหุ้นที่ใครไม่มีเรียกว่าเอ้าท์
หลังจากนั้นไม่นานหุ้นกลับตัวลงอย่างรุนแรงในขณะที่ Story และการเชียร์ของคนในตลาดยังดำเนินต่อไป
รายย่อยเข้าช้อนซื้อหุ้นด้วยความคิดว่า ถ้า Story ยังไม่จบ เดี๋ยวหุ้นก็ต้องกลับขึ้นไป
หารู้ไม่ว่าจริงๆแล้วจุดนั้นเองคือจุดจบ
หุ้นที่เกิด Climax Top มักจะมีลักษณะดังต่อไปนี้
- วิ่งขึ้นมาอย่างรวดเร็วในระยะเวลา 18 อาทิตย์ (4-5 เดือน) จากฐานที่ 1 หรือฐานที่ 2
- เกิดการพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำกำไรให้นักลงทุน 25-50% ในระยะเวลาเพียง 2-3 สัปดาห์
- หุ้นมีการขึ้นติดต่อกัน 8-9 วันขึ้นไป หนึ่งในนั้นอาจเป็นวันที่ขึ้นเยอะที่สุดตั้งแต่หุ้นตัวนั้นเป็นขาขึ้น ในรอบนั้นๆ
- หุ้นมีการเหวี่ยงแรงมากๆ วิ่งจาก Low ไป High เป็นว่าเล่น จนมีลักษณะคล้ายๆรางรถไฟ
- อาจเกิด Exhaustion Gap หรือช่องว่างจากการกระโดดขึ้น แสดงถึงกำลังซื้อที่สูงมาก และเป็นการไล่แบบไม่เกี่ยงราคา
- มีการแตกพาร์เกิดขึ้น ทำให้ราคาหุ้นถูกลง
- หุ้นวิ่งทะลุแนวต้านของ Channel Line ด้านบน
ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่าหุ้นที่เป็น Climax Top จะต้องเกิดทุกอย่างที่เขียนไป แต่เกิดขึ้นใกล้เคียงเท่าไหร่นับว่ามีโอกาสเกิด Climax Top มากขึ้นเท่านั้น
ตัวอย่างหุ้น Climax Top
ตัวอย่างในตลาดหุ้นไทยและต่างประเทศที่เกิด Climax Top มาก่อนก็มีหลายตัวเช่น …
ข้อควรระวังของ Climax Top
- รูปแบบของกราฟในแต่ละระยะที่มีนัยยะต่างกัน เช่นการเกิด Climax Top ในระยะ Day ย่อมมีนัยยะน้อยกว่า Week
- ถ้าหุ้นตัวนั้นพื้นฐานดีและกำลังเติบโตการเกิด Climax Top หุ้นจะลงมาในระยะสั้น 3-6 เดือน หลังจากนั้นจะเป็นโอกาสให้ซื้อลงทุนได้ในระยะยาว
- Climax Top ไม่ได้หมายความว่าหุ้นจะต้องลงหนัก 100% แต่หมายความว่าโอกาสลงมีมาก อาจจะ 80-90%
- บางครั้งเกิด Climax Top แล้วหุ้นกลับขึ้นไปทำ All Time High ใหม่ แต่มักจะไปได้ไม่ไกลก็จะกลับมาตกหนัก
- รูปแบบ Climax Top มักจะไม่เกิดใกล้ๆฐาน หรือเกิดตอนที่วิ่งขึ้นไปได้ไม่เยอะ ถ้าเกิดขึ้นอาจจะตีความได้ว่าเป็นการปรับฐานที่รุนแรงธรรมดา แต่ไม่ใช่ Climax Top
ที่จุดปลายของ Climax Top มักจะเกิด Reversal Pattern ขึ้น หรือเกิดการกลับตัวของกราฟที่ชัดเจน ซึ่งมีอยู่หลายรูปแบบ คราวหน้าผมจะมาเขียนอธิบาย Reversal Pattern ให้นะครับ เอามาใช้ดูคู่กับ Climax Top ครับ
ชอบบทความวิเคราะห์หุ้นรายตัวแบบนี้ ช่วยกด Like เป็นกำลังใจให้ เพจเทรนด์ลงทุน ด้วยนะครับ
COMMENTS