สรุป EV Tax Credit การเติบโตของหุ้นรถไฟฟ้า

HomeNews

สรุป EV Tax Credit การเติบโตของหุ้นรถไฟฟ้า

Last Updated on 01/03/2021

เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์สภาคองเกรสมีการนำเสนอให้เอานโยบายลดภาษีของรถยนต์ไฟฟ้ากลับมา (EV Tax Credit) ซึ่งถ้านโยบายนี้ผ่านได้จะทำให้คนที่ซื้อรถไฟฟ้าในสหรัฐฯได้ลดภาษีมากถึง 2500-7000 เหรียญ นโยบายนี้ส่งผลดีกับหุ้น Tesla ยังไง? รายละเอียดเป็นยังไง? ต้องติดตามอะไรบ้าง?

1. EV Tax Credit จะช่วยให้คนที่ซื้อรถยนต์ที่มีแบตเตอรี่ สามารถเอา Credit ไปลดหย่อนภาษีได้ตั้งแต่ 2500 เหรียญหรือ 7000 เหรียญ (ของเดิมให้สูงสุดที่ 7500 เหรียญ) โดยจะได้ Tax Credit เท่าไหร่นั้นขึ้นอยู่กับขนาดของแบตเตอรี่ด้วย แบตเตอรี่ใหญ่ได้เยอะ แบตเตอรี่เล็กได้น้อย

2. นโยบายนี้ให้สิทธิ์บริษัทรถยนต์ 4 แสนสิทธิ์ (ของเดิมให้ 2 แสน เพิ่มอีก 4 แสนเป็น 6 แสน)

3. หลังจากครบ 4 แสนสิทธิ์แล้ว สิทธิ์จะถูกตัดเหลือ 50% และดำเนินการต่ออีก 1 ไตรมาส

4. นโยบายนี้จะช่วยให้รถ Tesla Model 3 ที่ราคาถูกอยู่แล้ว ที่คันละ 35000 เหรียญ พอรวม EV Tax Credit เข้าไปอาจจะทำให้ราคาต่ำถึง 30000 เหรียญ หรือต่ำล้านบาทกันเลยทีเดียว

5. อย่างไรก็ตามนโยบายนี้ไม่ได้ช่วย Tesla บริษัทเดียว แต่เป็นประโยชน์กับทุกบริษัทที่ทำรถยนต์ที่ใส่แบตเตอรี่ นั่นรวมไปถึงรถ Hybrid ด้วย (แต่จะได้ Tax Credit น้อยหน่อยเพราะแบตเตอรี่เล็ก)

6. และรอบนี้น่าจะมีบริษัทรถ EV ได้ประโยชน์เยอะแน่ๆ เพราะรอบที่แล้วช่วงปี 2018 คนที่พร้อมที่สุดคือ Tesla ตอนนี้เชื่อว่าทุกเจ้าพร้อม

7. คิดดูดีๆนโยบายนี้อาจจะช่วย EV เจ้าอื่นมากกว่า Tesla เพราะรถ Tesla ต่อให้ไม่มี EV Credit ก็ขายได้อยู่แล้ว

8. ในขณะที่การมี EV Tax Credit โดยเฉพาะช่วงนี้ตอนนี้ใกล้ๆจะประกาศ อาจทำให้คนซื้อรถบางส่วนชะลอการซื้อออกไป เพราะต้องการรอ EV Tax Credit ก็อาจจะเป็นปัจจัยลบระยะสั้นเล็กๆ

9. ในขณะที่ถ้า Tesla ใช้ Quota 4 แสนคันหมด ซึ่งแอดมินมั่นใจว่าหมดเร็วชัวๆ ก็จะเป็นการเปิดโอกาสให้ลูกค้าที่ไม่ได้ EV Tax Credit ของ Tesla แล้ว หันไปซื้อยี่ห้ออื่น? เพราะยังได้ Tax Credit อยู่ก็เป็นได้เหมือนกัน

นโยบายนี้ต้องผ่านสภากว่าจะออกมาได้น่าจะช่วงครึ่งปีหลังของ 2022 น่าจะเป็นการจุดกระแสให้การเปลี่ยนผ่านไปซื้อรถไฟฟ้าง่ายกว่าเดิม

เขียนบทความนี้จบผมนึกไปถึง Mission ของ Tesla ที่บอกว่า To accelerate the world’s transition to sustainable energy … ถึงวันนี้ผมเริ่มเห็นว่า Tesla ทำได้แล้ว ไม่ใช่ด้วยการทำให้สำเร็จด้วยตัวบริษัทเอง แต่เป็นการที่บริษัทเข้ามาเพิ่มการแข่งขัน กดดันให้บริษัทรถยนต์ต่างๆต้องเปลี่ยนตาม

COMMENTS