สรุป Earning Call หุ้น GLBE 4Q21 Outlook Positive แต่แอบมีความเสี่ยงซ่อนอยู่

HomeStock

สรุป Earning Call หุ้น GLBE 4Q21 Outlook Positive แต่แอบมีความเสี่ยงซ่อนอยู่

Last Updated on 18/02/2022

หุ้น Tech หลายตัวมีการปรับลด Outlook ทั้งการเติบโต และการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่าย แต่ก็มีหลายตัวเหมือนกันที่ Outlook ดีกว่าที่คิดไว้ เช่น SNAP DDOG และ GLBE … สำหรับ GLBE นี่ผมให้เป็น Outlook ที่ค่อนข้างสวยเลยครับ นอกจากการเติบโตที่ลดลงเพียงเล็กน้อย จาก 80% ลงไปเหลือ 70% จากก่อนหน้านี้ที่นักลงทุนกลัวกันมากเพราะ Outlook ของหุ้น E-Commerce ตัวอื่นๆค่อนข้างไม่ค่อยดี กลับกลายเป็นว่าการเติบโตไม่ได้ลดมากมาย

มาดูรายละเอียดกันครับว่าแล้วยังไงดีล่ะนิ???

สรุป Earning Call 4Q21

 ปี 2021 ถือว่าเป็นปีที่ดีของ GLBE มากๆ เพราะการเติบโตทำได้ดี อัตราการทำกำไรก็สวยขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตลาดก็กำลังฟื้นตัว จะมีตัวดึงนิดหน่อยในมุมของ GAAP ที่โดนค่า Warrant ของ Shopify เข้าไป ซึ่งกว่าจะจบหมดน่าจะแถวๆปี 2023

GMV Gross Merchandise Value ตัว Metric สำคัญของธุรกิจ Commerce เติบโต 87% อยู่ที่ 1.45 Billion ตัวนี้ผมคาดไว้ที่แถวๆ 1.42 Billion สูงกว่าที่ผมคาดไว้เล็กน้อย Surprise เล็กๆครับ แต่ก็คิดไว้แล้วประมาณนึงเพราะ Q4 เป็นคิวกระชากของกลุ่ม Commerce

พอ GMV โตมากกว่าที่ผมคาด รายได้ก็โตเกินด้วยผมคาดไว้ที่ 78 ล้าน ของจริงออกมา 82.7 ล้าน Adj. EBITDA Margin โตขึ้นจาก 13% เป็น 14.3% จาก Volume ที่สูงขึ้น ทั้งปี Adj. EBITDA Margin โตขึ้นจาก 9.2% ในปี 2020 เป็น 13.2% ในปี 2021 สวยๆ

Gross Profit Margin โตขึ้นจาก 33.5% เป็น 39.5% จากวอลุ่มที่มากขึ้นและสัดส่วน Service Fee ที่สูงขึ้น รายได้ของ GLBE มาจาก 2 ส่วน 1. Service Fee 2. Fulfillment Fee โดย Service Fee จะมีกำไรมากกว่า เพราะ Fulfillment Fee ต้องรวมค่าใช้จ่ายต้นทุนในการส่งของเข้าไปด้วย

Adjusted EBITDA 14.3% ระดับนี้ทำให้บริษัทมีกำไรแล้วบางๆถ้าไม่เอาตัวค่าใช้จ่ายการแปลงหุ้นมารวม

NDR (Net Dollar Retention) ยังอยู่ในระดับสูงที่ 152% หมายความว่าลูกค้ายังมีการขยายอย่างต่อเนื่องในเชิงของ Volume อาจจะมีคน Churn ออกไปบ้างแต่ก็น้อยมากๆราวๆ 2%

มีการเปลี่ยนแปลงของ Cross Border Regulation มากกว่า 30 อย่างในตลาดทั่วโลก ยิ่งทำให้ลูกค้าไม่อยากจะทำเองแล้วโยนมาให้ GLBE ทำดีกว่า

ตอนนี้บริษัทมีไปเปิด Office ในญี่ปุ่นซึ่งเริ่มดำเนินงานแล้ว และออสเตรเลียกำลังเริ่มตามมา

ที่ซื้อ Flow Commerce มาเพราะจะเอามาดูแลลูกค้า SMB ที่มาจาก Shopify ซึ่งปีสองปีนี้น่าจะยัง Contribute ไม่มาเท่าไหร่นัก รายได้ตอนนี้ 20 ล้าน โตน้อยกว่า GLBE นิดหน่อย Contribute รายได้ไม่เกิน 5% แต่น่าจะ Contribute ในเชิงฐานลูกค้าได้เยอะเพราะเน้นรายย่อย

บริษัทคาดว่าอุตสาหกรรม E-Commerce อาจจะมีการชะลอตัวลงเล็กน้อยจากเปิดเมือง และคนออกไปช๊อปปิ้งได้ตามปกติ ร้านค้าและแบรนด์ต่างๆก็จะหันไปให้ความสำคัญกับช่องทาง Offline Store มากขึ้น

สิ่งที่สร้างความมั่นใจให้นักลงทุนคือบริษัทมีบอกว่าตอนนี้เป็น Clear Market Leading Position แล้วใน North America, UK และ Europe แถมบอกต่อว่าตลาดยังเป็น GreenField (aka. Blueocean) คือมันคู่แข่งน้อย หรือถึงมีก็ Scale ใหญ่สู้ GLBE ไม่ได้

บริษัทยังปั๊ม Service ใหม่ๆออกมาเรื่อยๆให้กับฐานลูกค้าเดิม ทำให้โอกาสที่ Take rate ในอนาคตมีโอกาสดีขึ้น

ปี 2023 จะเริ่มเห็น GMV ที่มาจาก Asia Pacific มากขึ้น (มีจีนมั้ยนะ 555)

Outlook ปี 2022

GMV Growth ที่ 70% ผมว่าตลาดไม่คาดตรงนี้นะ เพราะบริษัทอื่นๆก้ Outlook ไม่ค่อยดี แต่ที่ผม Surprise กว่าคือ Outlook ของ Adjusted EBITDA ที่ราวๆ 10% แม้จะดูต่ำลงถ้าเทียบกับปี 2021 แต่ต้องเข้าใจด้วยว่าปี 2022 GLBE มีพนักงานเพิ่มขึ้นจากการ Takeover Flow ด้วย แถม Flow ยังขาดทุนอยู่ดังนั้นจึงเป็นตัวดึง Adj.EBITDA ผมว่า Maintain ได้ที่ 10% ที่เกินกว่าที่ผมคาดไว้ประมาณนึง

FYI GLBE มีพนักงาน 290 คน Flow มีพนักงานราวๆ 130 คน แปลว่าค่าใช้จ่ายพนักงานต้องเพิ่ม 30-40% เป็นอย่างน้อย

สิ่งที่ทำให้ Outlook ดีคือการเติบโตของ GMV ที่โตเกินกว่าที่ผมคาดไว้ที่ 70% ดังนั้นผมว่าหลักๆสำหรับ GLBE ในปีนี้เลยคือพยายาม Maintain GMV Growth ให้ได้ตาม Outlook

ซึ่งกลยุทธ์ของ GLBE คือพยายาม Convience ลูกค้าที่มีการส่งออกอยู่แล้วให้โยก Volume มาให้ GLBE จัดการ บางส่วนก็โยกมาได้เลย บางส่วนก็ติดสัญญากับ Supplier แต่ผมคิดว่าปี 2022 ถ้าจะโตได้แบบนี้น่าจะเป็นการโยก Volume และลูกค้าใหม่เนี่ยแหละ

เห็น Effect ชัดๆน่าจะแถวๆ 2H ปี 2022 หรือต้นปี 2023 ครับ ต้นปีเจอ Seasonal Effect ของ Q1 ที่น่าจะต่ำกว่า Q4 อยู่แล้ว ดังนั้นผมว่าถ้าจะเริ่ม Rally 2H 2022 is most likely ครับจะเร็วกว่าช้ากว่าก็คงมีบ้างผมเองไม่สามารถบอกได้ 100%

อีกอย่างคือ Volume ของ GLBE ยังค่อนข้างน้อยมาก เมื่อเทียบกับตลาด D2C E-Commerce ในภาพรวม GMV Marketshare ยังไม่ถึง 1% เลยครับ ตลาดมันกว้างใหญ่ไพศาลมากๆ ก็อาจจะทำให้ไม่ได้โดน Effect มากเหมือนพวกบริษัทยักษ์ใหญ่ที่กิน Marketshare ไปเยอะแล้ว มันไม่มีให้เพิ่มแล้ว

ความเสี่ยงของ GLBE

สิ่งที่ผมกลัวแต่ไม่เห็นใครพูดถึงคือผลกระทบจาก IDFA ที่ยังไม่จบ ลองนึกภาพดูนะครับ ปกติ Brand ต่างๆใช้ GLBE ช่องทางการทำการตลาดมาจากทางไหน? ส่วนใหญ่ก็ Facebook / IG Ads มะ? ถ้า Brand Advertising และ Direct Response มีการ Targeting ที่แย่ลง แน่นอนว่า Return on Ads spend จะลดลง ก็น่าคิดเหมือนกันว่าแบรนด์จะยอมให้ยอดขายลดลงไหม หรือจะอัดเงินเพิ่ม ในขณะที่เริ่มเปิดเมืองการอัดเงินไปเน้นที่ Offline อาจจะดีกว่า

อีกประเด็นหนึ่งคือ GLBE ได้ข้อมูลมาทำ Outlook จากไหน? ก็น่าจะมาจากลูกค้าว่าจะมีโยก Volume ที่ทำเองมาให้ GLBE เท่าไหร่?​ นั่นหมายความว่า Outlook ของ GLBE ก็ Based มาจากยอดของลูกค้านั่นแหละ ถ้าลูกค้าประมาณการยอดขายผิด ก็จะกระทบมาถึง GLBE เช่นกัน ถึงจุดนี้ต้องดูว่า Outlook ที่ลูกค้าให้มามันจะมาตามนั้นจริงๆไหม

ถ้าใครเคยฟัง Cathie Woods เจ๊เคยบอกว่าพอเปิดเมืองเต็มที่คนจะไปใช้เงินกับ Service หมด เพราะปี 2020-2021 ที่ผ่านมาคนไม่ได้ออกนอกบ้าน ไม่ได้ใช้บริการ Service ก็เอาเงินไปลงกับสินค้าหมด นี่คือสิ่งที่บริษัทบอกว่า E-Commerce จะ Normalized ในปี 2022 และเป็นสาเหตุให้ Outlook ของหลายบริษัทดูไม่ค่อยสวยครับ

สุดท้ายเรื่อง Fed ขึ้นดอกเบี้ย ยังคงเป็นความเสี่ยงในระยะสั้น-กลางที่ต้องติดตาม เพราะต่อให้ผลประกอบการดีแค่ไหน ถ้า Fed ขึ้นดอกเบี้ย 7 ครั้ง 10 ครั้ง ไปกระทบกับ Cost of Capital ใน DCF ที่สูงขึ้น ยังไงก็ต้องโดนครับ

สรุปหุ้น GLBE

เรียกได้ว่าเป็นปีที่ต้องพายเรือทวนน้ำแหละ แต่บังเอิญเรือของ GLBE มันเป็นเรื่องที่เพิ่มเครื่องยนต์มาเมื่อปีที่แล้ว จาก 2 เครื่องยนต์เป็น 3 เครื่องยนต์ เลยทำให้แม้น้ำจะเชี่ยวแต่เรือยังแล่นเร็วได้กว่าเดิม (Hopefully)

การเติบโตมาจากลูกค้าเดิมเพิ่มวอลุ่มส่วนหนึ่งด้วย คิดในแง่ดีก็ทำให้ Outlook Solid ขึ้น ถ้ามองผ่านปี 2022 ไปผมว่า 2023 น่าจะเป็นปีที่ดีของ GLBE ครับ เพราะโตได้ และปัจจัยลบต่างๆใน 2022 น่าจะผ่านไปหมดแล้ว

ผมเคยมีประเมินไว้คร่าวๆ Value ของ GLBE ด้วย DCF จะอยู่ที่ 31-55 ดอลในกรณี Bear-Bull แต่ก็ต้องบอกว่าผม Forecast การเติบโตในปี 2022 Under ไปหน่อยดังนั้นก็อาจจะ Diff แต่ไม่น่าเกิน 10%

ถ้าดูด้วย Relative Valuation โดยประเมินว่าปี 2023 รายได้แถวๆ 600 ล้าน EV/Sales ตอนนี้จะอยู่ที่ 10 เท่า

ดังนั้นทุกคนลองไปประเมินเพิ่มดูคร่าวๆครับว่าราคาณ.ตอนนี้น่าสนใจแค่ไหน อย่าลืมติดตามความเสี่ยงที่น่าจะออกมาเรื่อยๆด้วย

ชอบบทความวิเคราะห์หุ้นรายตัวแบบนี้สามารถติดตามผ่าน FB Page: เทรนด์ลงทุน และ LINE@Trendlongtun ครับ

COMMENTS