วิเคราะห์ หุ้น KEX Kerry Express โตสุดโหด สรุปเน้นๆหลัง IPO เข้าตลาด

HomeStock

วิเคราะห์ หุ้น KEX Kerry Express โตสุดโหด สรุปเน้นๆหลัง IPO เข้าตลาด

Last Updated on 06/01/2021

สำหรับหุ้น KEX จริงๆแล้ว Kerry Express เป็นบริษัทที่ทำธุรกิจในฮ่องกง เข้ามาเปิดธุรกิจขนส่งในไทยปี 2545 แต่ก็เป็นธุรกิจขนส่งธรรมดาที่ไม่ได้มีอะไรพิเศษ จนมาถึงปี 2554 บริษัทเข้าสู่ธุรกิจ “ขนส่งพัสดุด่วน” และเปิดร้านรับส่งพัสดุที่แรกในปี 2556

ปี 2558 บริษัทเปิดศูนย์คัดแยกพัสดุแห่งแรงของบริษัท และเริ่มให้บริการจัดส่งพัสดุในวันเดียวกันที่เรียกว่า Same Day Delivery ส่งเช้าได้เย็นในพื้นที่กรุงเทพฯ และจังหวัดรอบๆ

การมาของ E-Commerce รายใหญ่อย่าง Shopee และ Lazada เป็นตัวผลักดันให้ธุรกิจของ Kerry Express เติบโตก้าวกระโดดตามข้อมูลด้านล่าง

รายได้

  • 2560 – 6,626 ลบ.
  • 2561 – 13,565 ลบ.
  • 2562 – 19,781 ลบ.

รายได้หุ้น KEX

ไม่ใช่แค่รายได้โตเร็วแต่กำไรก็โตดีด้วย

กำไร

  • 2560 – 730 ลบ.
  • 2561 – 1,185 ลบ.
  • 2562 – 1,328 ลบ.

เปรียบเทียบกับไปรษณีย์ไทยให้เห็นภาพ ไปรษณีย์ไทยมีรายได้ในปี 2562 27,000 ลบ. ไปรษณีย์ไทยทำธุรกิจมา 130 กว่าปี Kerry ทำธุรกิจในไทยมาแค่ 20 กว่าปี รายได้ 19,781 ลบ. แล้ว ถ้า Kerry ยังโตแบบนี้คงแซงไปรษณีย์ไทยในอีกไม่กี่ปี

การเติบโตของตลาด E-Commerce

มุมพื้นฐานของหุ้น KEX

ตอนนี้กำลังจะเข้ามา List ในตลาดหุ้นแล้วภายใต้ชื่อหุ้น KEX บริษัทมีกำไรระดับพันล้านบาท มูลค่าบริษัทเกินหมื่นล้านสบายๆ และนี่คือข้อมูลที่นักลงทุนต้องรู้ถ้าอยากลงทุนในหุ้น KEX

(Economic Intelligence Center) EIC บอกว่าตลาดการขนส่งสินค้าของไทยจะมีขนาดประมาณ  66,000 ลบ. ในปีนี้ โต 34% จากแถวๆ 49,000 ลบ. ถ้า KEX รายได้แถวๆ 20,000 ลบ. ก็แปลว่ามีส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 30% ไปรษณีย์ไทย 40% ปลายๆ

แม้ KEX จะไม่ได้เป็นเบอร์ 1 ในเชิงรายได้รวม แต่ถือว่าเป็นเบอร์ 1 ในเชิงการส่งด่วน (อันนี้เข้าใจได้ เพราะส่งไปรษณีย์ไทยยังไงก็ไม่ด่วนแน่นอน 555)

เบอร์ 2-5 ก็เป็นเจ้าที่เรารู้จักกันดีเช่น Flash Express, Best Express และ J&T Express แต่ 3 เจ้านี้ยังห่างจาก KEX อีกเยอะถ้าดูกันนี้จำนวนพัสดุที่ส่งในแต่ละวัน ข้อมูลปี 2562

  • Kerry Express 1,100,000 ชิ้น/วัน (ข้อมูลอัพเดทล่าสุดคืออยู่ที่ 1.2 ล้านชิ้นต่อวันแล้ว)
  • Flash Express 280,000 ชิ้น/วัน
  • Best Express 100,000 ชิ้น/วัน
  • J&T Express 100,000 ชิ้น/วัน

การแข่งขันของธุรกิจขนส่ง

ถ้ามองเป็นจำนวนพัสดุที่ส่งทั้งปี

  • 2560 – 71 ล้านชิ้น
  • 2561 – 173 ล้านชิ้น
  • 2562 – 274 ล้านชิ้น

เติบโตแบบติดจรวดเลยทีเดียว

ข้อมูลแต่ละบริษัทในตลาดขนส่ง

นอกจากการเติบโตแล้วสิ่งที่น่าสนใจนอกเหนือจำนวนพัสดุที่ส่งคือเรื่องคุณภาพของการบริการ

KEX มีอัตราการจัดส่งพัสดุที่ตรงเวลาของ KEX คือสูงมาก 99% อัตราการส่งคืนพัสดุต่ำกว่า 1.5%ถือว่าบริการของ KEX ค่อนข้างเป๊ะ

ต้องบอกว่าทั้งหมดทั้งปวงนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้ถ้า KEX ไม่ได้มีศูนย์กระจายสินค้า ร้านสาขา และสายส่งจำนวนมหาศาล

ซึ่งทั้งหมดนี่ KEX ไม่ได้เป็นเจ้าของเองเลย พื้นที่เช่าเอา รถเช่าเอา ร้านสาขาใช้วิธีไปร่วมเป็นพันธมิตรกับเจ้าของตึก และเจ้าของร้าน ส่วนพนักงานส่งของก็มีทั้งพนักงานส่งของบริษัทเอง และแบบที่เป็นตัวแทน ซึ่งถือเป็นโมเดลธุรกิจที่ Flexible มากๆ ขยายได้เร็ว

งบการเงินของหุ้น KEX เป็นยังไง?

ไตรมาสล่าสุด 3/2563 Kerry มีรายได้ที่เติบโตได้น้อยกว่าที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งก็เพราะกำลังซื้อที่อ่อนตัวลงหลังจากการปิดประเทศอย่างยาวนาน มาหักลบกับการเติบโตในช่วงของ COVID ซึ่งไปในแนวเดียวกันทั้งธุรกิจ C2C และ B2C

FYI เล็กน้อย KEXมีสัดส่วนรายได้ C2C มีสัดส่วน 53.9% และรายได้ B2C มีสัดส่วน 44.3% ครับ

ลองประเมินคร่าวๆถ้า KEX เข้าตลาดมาด้วยกำไรแถวๆ 1000-1300 ลบ. และการเติบโตในปีหน้าสามารถกลับมาเติบโต 10-20% หุ้นอาจจะเทรดได้ที่ P/E สูงถึง 30 เท่า อาจจะมีมูลค่า 30,000-40,000 ลบ. ซึ่งจะมีขนาดพอๆกับ CENTEL, PTG, MEGA หรือ JMT

ข้อมูลล่าสุดที่ผมได้มาจากบทวิเคราะห์ของ Bualuang ทางนักวิเคราะห์ให้มูลค่าของ KEX ไว้สูงถึง 64,000 ลบ. เลยทีเดียว โดยมี Forward P/E ปีหน้าอยู่ที่ราวๆ 33-35 เท่า ทีนี้ก็ต้องมาดูกันแล้วว่าจะขาย IPO ให้นักลงทุนในราคาเท่าไหร่

หุ้น KEX Valuation

KEX มีอัตราการทำกำไรขั้นต้นที่ 16.6% สูงขึ้นจากปีที่ผ่านมาที่ 14.8% อันนี้จากที่อ่านข้อมูลมาคือมาจากราคาน้ำมันที่ลดลง, การต่อรองเงื่อนไขต่างๆกับคู่ค้า และการเพิ่มประสิทธิภาพของพนักงาน

ถ้าเราไปดูที่ต้นทุนของ KEX จะเห็นว่าสัดส่วนต้นทุนที่มากที่สุดคือ ค่าใช้จ่ายพนักงานที่ 35% และค่าใช้จ่ายขนส่ง aka.ค่าน้ำมันนั่นเอง ที่ 32% ที่เหลือก็เป็นค่าเสื่อม 13% ค่าคอมฯ 8% และค่าเช่าที่และรถ 3%

ถ้าคุมค่าพนักงาน กับค่าน้ำมันอยู่กำไรก็ดีขึ้นไม่ยาก

ในมุมของต้นทุนยังมีอีกอย่างที่ KEX ยังเพิ่มประสิทธิภาพได้ก็คือ ปัจจุบันบริษัทมีความสามารถในการคัดแยกพัสดุต่อวันได้ที่ 1,900,000 ชิ้น แต่จำนวนการส่งต่อวันอยู่ที่ 1,200,000 ชิ้น ดังนั้นถ้าส่งของเพิ่มมากขึ้นต้นทุนในการคัดแยกอาจจะเพิ่มขึ้นน้อยมากๆ ยิ่งส่งเยอะกำไรน่าจะยิ่งดีขึ้นเอง

เข้าตลาดมาแล้วจะเอาเงินไปทำอะไรบ้าง

จากที่มีสาขาเยอะอยู่แล้ว KEX จะเอาเงินไปขยายสาขาเพิ่มเติมเพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้าที่จะมาส่งของ ทำเลดีๆต้องยึดไปก่อนที่คู่แข่งจะตามมา

ลงทุนเพิ่มในระบบขนส่งและการกระจายสินค้าให้ทันสมัย ใช้พวก Robot และเทคโนโลยีมากขึ้น อันนี้ต้องบอกว่าธุรกิจขนส่งเนี่ย ข้อมูลลูกค้ามหาศาลมากๆนะครับ ไว้ผมจะมาเขียนสรุปเรื่องนี้ให้ฟัง ที่จีนมีการใช้เทคโนโลยีมาช่วยเรื่องธุรกิจขนส่งแบบเจ๋งมากๆ ผมว่า KEX ก็เดินตามรอยได้ไม่ยาก

สรุปแล้วหุ้น KEX ถือว่า…

สรุปภาพรวมทั้งหมดของหุ้น KEX รายได้น่าจะกลับมาโตได้หลัง COVID ผ่านไปเพราะอุตสาหกรรมโต เกมของ KEX ในตอนนี้คือการเพิ่มจำนวนการส่งของให้มากที่สุดเพื่อให้เกิด Economy of Scale และควบคุมต้นทุนให้อยู่ เพื่อให้กำไรโตได้

KEX ถือเป็นหุ้นที่เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมส่งด่วน ตัวบริษัทเองผมว่าถือเป็นตัวเลือกแรกๆในการส่งของสำหรับพ่อค้าแม่ค้าไปแล้ว เอะอะอะไรก็ส่ง Kerry ก็เหลือแค่ว่าบริษัทจะสามารถรักษาสถานะผู้นำเอาไว้ได้ไหม เพราะอุตสาหกรรมนี้แข่งดุมากๆ

ความเสี่ยงสำคัญที่ต้องติดตามผมว่าคือเรื่องพันธมิตร KEX มีสัดส่วนรายได้ B2C สูงถึง 44.3% ถ้าเราไปซื้อของใน Shopee หรือ Lazada ตอนนี้จะเห็นว่ามีตัวเลือกในการส่งของมากมาย รวมไปถึงบริษัทของพันธมิตรเอง อย่าง LEX ของ Lazada

คนซื้อเองก็คงมีบ้างที่เลือก Kerry ส่งเป็นประจำ (ผมเป็นหนึ่งในนั้นเพราะรู้สึกว่าบริการดีสุด) แต่ก็ไม่มีอะไรมาปิดกั้นไม่ให้ผมไปใช้ของเจ้าอื่นได้ ถ้าลูกค้าเกิดเปลี่ยนเจ้าใช้ขึ้นมาเยอะๆ ก็อาจจะทำให้การเติบโตไม่ได้เป็นไปตามคาด

ถ้าการเติบโตไม่มา P/E 30 ก็น่าจะสูงเกินไป แต่ถ้าเติบโตมาตามนัดได้ก็อาจจะกลายเป็นหุ้นเปลี่ยนชีวิตที่เติบโตหลายเด้งไปเลยก็เป็นไปได้อยู่ครับ

ปล.ถ้าใครอยากลุ้น KEX แต่กลัวไม่ได้ IPO ก็ไปซื้อ VGI ก็ได้นะครับหลังเข้าตลาดแล้วน่าจะถือ KEX ประมาณ 18%

ชอบบทความวิเคราะห์หุ้นรายตัวแบบนี้ ช่วยกด Like เป็นกำลังใจให้ เพจเทรนด์ลงทุน ด้วยนะครับ

ขอบคุณข้อมูลจากบทวิเคราะห์ดีๆอย่างหลักทรัพย์บัวหลวง

ส่วนใครอยากหาข้อมูลเพิ่มเติมก็หาได้จาก Filling ในเว็บ SET ของตลาดหลักทรัพย์ได้เลยครับ

COMMENTS