Last Updated on 29/03/2021
Update งบการเงินหุ้น MICRO ไตรมาส 4 ปี 2563
ก่อนอื่นต้องขอโทษเพื่อนๆที่อัพเดทช้าไปหน่อยนะครับ หุ้นขึ้น 9% ไป 2 รอบ
อย่างไรก็ตามผมยังคิดว่าหุ้นตัวนี้ในระยะยาวๆยังโตได้อีกพอสมควร
ส่วนในระยะสั้นอาจจะต้องมีการปรับฐานตามระเบียบนะครับ วิ่งมาเยอะขนาดนี้ แถมยังวิ่งมาชนแนวต้านด้านบนแล้ว
ผมนั่งไล่ดูงบการเงินไตรมาส 4 ของ MICRO เห็นจุดที่น่าสนใจและพัฒนาดีขึ้นหลายจุดครับ
จุดแรก รายได้ … ที่ผ่านมา MICRO รายได้โตช้าหน่อยเพราะก็มีปัญหาจากช่วง COVID ด้วย
ไตรมาส 4 รายได้โตมา 43% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว เป็นรายได้สูงสุดตั้งแต่ตั้งบริษัทมาเลยทีเดียว
ผมให้นำ้หนักกับรายได้ของหุ้น MICRO มากที่สุด เพราะบริษัทเพิ่งเข้าตลาดมา ลงทุน เพิ่มคนไปเรียบร้อยแล้ว เงินทุนพร้อมแล้วเหลืออย่างเดียวคือยังไม่โตแรงๆ
แม้งบไตรมาส 4 รายได้จะโตดีแต่ก็ต้องอย่าลืมว่า อันนี้เนี่ยยังไม่ได้รวมรายได้จากสาขาใหม่เข้าไป เป็นรายได้จากสาขาเดิมล้วนๆนะครับ
ดังนั้นทั้งปี 2564 การเติบโตของ MICRO จะมีเรื่องสาขาใหม่มาช่วยหนุนด้วย
รายได้ค่าธรรมเนียมจากการขายประกันเนี่ยก็ยังเติบโตดีมาก เพิ่มขึ้น 103% จากปีที่ผ่านมา ปี 2564 มีลุ้นตรงนี้หลัก 100 ลบ.
ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเพิ่มบางมากๆ ก็เป็นเพราะมีการเพิ่มคนไปหมดแล้ว ตอนนี้เหลือแค่ทีมเซลส์สำหรับสาขาใหม่ ค่าใช้จ่ายปีนี้น่าจะไม่เพิ่มเยอะๆแล้ว
ดังนั้นอัตราการทำกำไรของ MICRO น่าจะสูงขึ้นได้ตลอดทั้งปี SG&A ตอนนี้ลงมาเหลือเพียง 29% ของรายได้
ปี 2564 บริษัทจะพยายามคุมให้อยู่ใน Range 30-35% ครับ ต้องมาลุ้นกันมาคุมได้มากน้อยแค่ไหน
ส่วนเรื่องหนี้เสียไตรมาสนี้เพิ่มขึ้นน้อยมากๆ ดอกเบี้ยจ่ายก็ลดลงเนืื่องจากบริษัทเองเงิน IPO ที่ยังไม่ได้ใช้ไปลดหนี้
ปี 2564 บริษัทวางแผนโต 30% คิดว่าน่าจะทำได้ไม่ยาก รายได้ปีนี้ น่าจะอยู่ราวๆ 430-450 ลบ. กำไร 180-200 ลบ. โตจากปี 2563 แถวๆ 50%
จริงๆไม่ถือว่า Surprise ซักเท่าไหร่ แต่เป็นจุดที่บริษัทเริ่มโชว์ของออกมามากกว่า เพราะที่ผ่านมามันแย่เกิน
ไตรมาสนี้บริษัทมา Oppday ด้วยนะครับ วันที่ 11 เดือนมีนาคม ใครสนใจไปติดตามฟังกันได้ครับ
ใครยังไม่คุ้นเคยกับหุ้นตัวนี้ลองอ่านบทวิเคราะห์ด้านล่างได้ครับ
หุ้น MICRO ดีไหม?
หุ้น MICRO เป็นหุ้นลีสซิ่งที่เพิ่ง IPO เข้ามาเมื่อเดือนตุลาคม ปี 2563
หุ้น IPO ที่ราคา 2.65 บาท หรือ Market cap ประมาณ 2,500 ลบ.
ที่ราคานี้ P/E ของ MICRO อยู่ที่ราวๆ 20 เท่า ด้วยการเติบโตย้อนหลังแถวๆ 40-50% ทำให้ราคานี้ดูไม่แพง
พอหุ้น MICRO เข้าตลาดมาวันแรกราคาปิดไปที่ 5.45 บาท ทำกำไรให้คนได้หุ้น IPO เกิน 100%
หลังจากนั้นราคาหุ้นวิ่งผันผวนไปมาอยู่ราวๆ 4 เดือน มาจนถึงวันนี้หุ้นกลับมาอยู่ที่ราคา 5.80 บาท
กำลังจะทะลุ High เดิมที่เคยทำไว้ที่ 6.15 บาทเมื่อเดือนธันวาคม
MICRO จะสามารถวิ่งทะลุ High เดิมได้ไหม มาวิเคราะห์กันครับ
วิเคราะห์กราฟเทคนิค
ล่าสุดหุ้น MICRO ตกลงไปทำจุดต่ำสุดที่ 4.45 บาท ถ้าเราลาก Channel Line เชื่อมจุดต่ำสุดและสูงสุดจะได้แนวรับที่ 4.60 และแนวต้นที่ราวๆ 6.80
ราคาหุ้นณ.ตอนนี้อยู่ที่ 5.80 บาท ถือว่าในระยะสั้นไม่ค่อยน่าสนใจเท่าไหร่เพราะ Upside กับ Downside ใกล้เคียงกัน
ถ้ามองในภาพที่กว้างขึ้นมาจะเห็นว่าหุ้น MICRO ยังอยู่ใน Uptrend ขาขึ้นอยู่อย่างต่อเนื่อง มีทำท่าจะหลุดลงไปทำ Low ที่ 4.45 แต่ก็กลับตัวขึ้นมาได้อย่างสวยงาม ตอนนี้กำลังพยายาม Break แนวต้นที่ 5.75-6.10 บาท
ถ้าเบรกแนวนี้ไปได้ หุ้นจะเข้าสู่ระดับ All Time High โอกาสที่หุ้นจะวิ่งขึ้นเร็วและแรงนั้นมีสูงพอสมควร
แต่จะวิ่งมากแค่ไหนเรามาวิเคราะห์ด้านพื้นฐานกันต่อว่าหุ้นตัวนี้มีเหตุและปัจจัยอะไรที่จะทำให้วิ่งแรงๆได้บ้าง
หุ้น MICRO ทำธุรกิจอะไร
หุ้น MICRO ทำธุรกิจปล่อยสินเชื่อรถบรรทุกมือ 2 ที่มีอายุ 10 ปีขึ้นไป ตลาดนี้มีความเฉพาะตัวสูงมากเพราะ ไม่ใช่แค่เป็นรถยนต์มือ 2 ที่ถือว่าเป็นตลาดปราบเซียน แต่ยังเป็นรถบรรทุกมือ 2 ที่มีอายุมาก ถ้าไม่มีความชำนาญในการประเมินราคารถ มีโอกาสประเมินราคารถบรรทุกผิด และปล่อยสินเชื่อพลาดได้ง่ายๆ
ตลาดเสี่ยงสูง การปล่อยสินเชื่อยากต้องใช้ความเชี่ยวชาญคือสาเหตุว่าทำไมบริษัทจึงมี NIM สูงถึง 13% เมื่อเทียบกับบริษัทสินเชื่อรถมือ 1 ที่มี NIM เพียง 4-5%
ความดีงามของ MICRO คือเจ้าของบริษัททำธุรกิจขายชิ้นส่วนรถบรรทุกมาก่อน ทำให้สามารถประเมินราคารถบรรทุกได้แม่นยำกว่าที่อื่นๆ โอกาสที่จะปล่อยสินเชื่อพลาดมีน้อย NPL สามารถควบคุมได้ในระดับ 3% ในระยะยาว
ปัจจุบัน MICRO มี Market Share ในตลาดสินเชื่อรถบรรทุกมือ 2 เพียง 5% เป็นของรายใหญ่อย่าง THANI และ ASK ประมาณ 20-30% ที่เหลือเป็นรายเล็ก รายย่อยท้องถิ่น และนี่แหละคือจุดที่ MICRO จะเข้าไปตีตลาด
MICRO จะโฟกัสไปในการตีตลาดของผู้ปล่อยสินเชื่อรายย่อย ด้วยการขยายสาขาและการให้สินเชื่อที่รวดเร็วกว่า ทำให้เจ้าของเต้นท์รถบรรทุกสามารถขายรถบรรทุกได้เร็ว และสะดวกต่อผู้ซื้อ
แล้วตลาดดีขนาดนี้ THANI กับ ASK ไม่อยากลงมาเล่นเหรอ? คิดง่ายๆ รายใหญ่ปล่อยรถบรรทุกมือ 1 คันนึง 3-4 ล้าน ได้ยอดเยอะกว่าดีกว่ามานั่งปล่อยรถบรรทุกมือ 2 คันละ 8แสน-1ล้าน แถมยังต้องแบกรับความเสี่ยง นี่อาจเป็นเหตุผลที่ทำให้รายใหญ่ไม่ได้สนใจตลาดนี้มากนัก
วิเคราะห์งบการเงิน
หุ้นสินเชื่อจะโตได้ต้องมาจากการปล่อยสินเชื่อ จะปล่อยสินเชื่อได้ก็ต้องมาจากการมีเงินทุนก่อน MICRO ได้เงินทุนมาแล้วจากการ IPO ราวๆ 623 ลบ.
แต่คีย์มันคือพอได้เงินมาปั๊ปก็เจอ COVID ปุ๊ปทำให้แผนของบริษัทสะดุดลงยอดการปล่อยสินเชื่อไม่ได้โตมากอย่างที่คิด พนักงานอะไรก็จ้างเข้ามาหมดแล้วขยายงานไปแล้ว Cost to Income ปูด จาก 34% เป็น 37%
แถมยังไปเจอกับการตั้งสำรองหนี้สูญกรณีพิเศษเนื่องจากมีลูกค้ารายใหญ่รายหนึ่งจ่ายช้าไป 2-3 คันแต่ในสัญญาเงินกู้มีเป็น 10 คัน มาตรฐานทางบัญชีให้ตั้งสำรองเต็มจำนวนสัญญา เป็นเงินประมาณ 20 ลบ. สุดท้ายส่งผลให้กำไรในไตรมาส 3 ปี 2563 ติดลบไป
สรุปง่ายๆคือไตรมาส 3 รายได้ไม่มา ค่าใช้จ่ายเพิ่ม กำไรเลยกระทบหนัก แต่หนักในทีนี้ก็แค่ 12% นะครับ
วิเคราะห์การเติบโต
เรื่องร้ายๆของ MICRO น่าจะผ่านไปหมดแล้ว ทีนี้มาดูอนาคตบ้างว่าจะเกิดอะไรขึ้น
หลังจากนี้ไปบริษัทน่าจะทยอยปล่อยสินเชื่อเพิ่มเติมได้ โดยมีเป้าหมายอยู่ที่พอร์ตสินเชื่อ 5,000 ลบ.ในปี 2565 ปัจจุบันนี้อยู่ที่ 2,100 ลบ. ถ้าโตได้จริงๆก็เฉลี่ย 30-40% ต่อปี
ที่รายจ่ายเพิ่ม Cost to Income ปูดก็เพื่อเตรียมพร้อมการปล่อยสินเชื่อเพิ่มในปี 2564 นี้แหละ ทำให้พอจะประเมินได้ว่าปี 2564 น่าจะเป็นปีที่ดีของ MICRO เพราะจะเห็นรายได้เพิ่ม ในขณะที่ค่าใช้จ่ายน่าจะไม่เพิ่มแล้ว หรือเพิ่มก็น้อยมากๆ จุดนี้เองที่จะทำให้กำไรของ MICRO โตอาจจะ 40-50% ได้เลยทีเดียว
ปัจจัยอีกอย่างที่จะช่วยผลักดันการเติบโตคือการขายประกันภัยของบริษัท ที่เริ่มเน้นขายประกันชั้น 1 มากขึ้น การขายประกันตรงนี้ได้ค่าคอมสูงถึง 40% ขายได้เท่าไหร่ ก็เอาค่าคอมลงเป็นกำไรแทบจะได้เลย เพราะพนักงานที่ใช้ก็ชุดเดียวกันกับที่ปล่อยสินเชื่อ ค่าใช้จ่ายไม่มี
หุ้นสินเชื่อวัดกันอีกอย่างที่ศักยภาพในการกู้เงิน THANI กับ ASK มี D/E ที่ค่อนข้างสูงแล้ว การจะโตเยอะๆไม่ง่ายเพราะกู้มาจนเต็มแม๊กซ์ แต่ MICRO ยังถือเป็นหุ้นที่มีรูมในการกู้อีกเยอะมาก D/E น้อยแค่ 0.7 เท่า
นอกจากนั้นบริษัทยังมีโอกาสในการที่จะลดดอกเบี้ยเงินกู้ได้ด้วยการทำ Credit Rating ของบริษัท ออกหุ้นกู้เพื่อลดต้นทุนทางการเงินได้อีก
สรุปคือโอกาสเพิ่มกำไรมีมากไม่ว่าจะเป็นการปล่อยสินเชื่อเพิ่ม การลดดอกเบี้ย การขายพ่วงประกัน แต่ราคาหุ้นนะตอนนี้ถือว่ารับรู้เรื่องพวกนี้ไปหมดแล้วหรือยังนะ?
มุม Valuation
ถ้าดูในเว็บ SET จะเห็นว่า MICRO มี Market Cap อยู่ที่ 5,300 ลบ. (วันที่ 21 มกราคม 2564) P/E อยู่ที่ 41.81 เท่าดูเหมือนราคาแพง
แต่ราคานี้ต้องอย่าลืมว่าบริษัทมีการเพิ่มค่าใช้จ่าย จ้างพนักงานเพิ่ม มีการตั้งสำรองลูกค้ารายใหญ่ แถมยังปล่อยสินเชื่อได้ไม่ตรงตามที่คาดไว้ในปี 2563 อีก
กำไรไตรมาสล่าสุด 32 ล้าน …
ถ้าสมมุติว่าบริษัทไม่โตอีกแล้ว บวกกลับที่ตั้งสำรองไป 20 ล้าน เป็น 52 ล้าน
สมมุติว่าลดต้นทุนทางการเงินได้ซัก 20% เป็นเงินประมาณ 2 ล้าน เป็น 54 ล้าน
สมมุติว่าบริษัททำรายได้แบบนี้ไปได้เรื่อยๆทุกไตรมาสโดยไม่โต นั่นหมายความว่าจะมีกำไรปีละ 216 ลบ.
ที่ Market Cap 5329 ลบ. หุ้น MICRO จะมี P/E ที่ 24 เท่า ซึ่งก็ยังแพงอยู่ดีถ้าเทียบกับ THANI และ ASK ที่ P/E มุ้งมิ้งแค่ 8-12 เท่า
แต่ก็ต้องอย่าลืมด้วยว่า MICRO อยู่ในตลาดที่มี Loan Yield ดีกว่าของ ASK และ THANI เยอะ ผลตอบแทนที่ทำได้แทบจะเทียบกับพวกจำนำทะเบียนอย่าง SAWAD หรือ MTC ได้เลย ในขณะที่ความเสี่ยงเหมือนจะต่ำกว่า เพราะสินเชื่อที่ปล่อยคือรถบรรทุก ซึ่งเป็นเครื่องมือทำมาหากินของลูกค้า (ใครจะยอมให้ยึดเครื่องมือทำกินครับ)
ในขณะเดียวกับ MICRO ยังมีรูมในการกู้อีกเยอะมาก ต่างกับ THANI และ ASK ที่อาจจะโตไม่ได้มากเท่า MICRO
ถ้าสมมุติฐานของผมถูกต้อง นั่นแปลว่าหุ้น MICRO อาจไม่ได้แพงมากอย่างที่คิดกันก็เป็นได้
สรุปหุ้น MICRO
การจะซื้อหรือไม่ซื้อหุ้น MICRO สิ่งที่ต้องเดิมพันไม่น่าเป็นการเติบโตของพอร์ตสินเชื่อซักเท่าไหร่ เพราะเชื่อว่าน่าจะโตได้ไม่ยากนัก
สิ่งที่น่าจับตามากกว่าน่าจะเป็นเรื่อง NPL ว่าจะสามารถคุมได้อย่างที่บอกจริงหรือไม่ NPL 3% นี่ถือว่าเป็นตัวเลขที่เรียกได้ว่าดีเลยล่ะสำหรับอุตสาหกรรมนี้
อีกเรื่องที่น่ากังวลคือการแข่งขันว่า THANI หรือ ASK จะลงมาเล่นด้วยมั้ยถ้าตลาดนี้มันโตเยอะจริงๆ ไหนจะมีรายใหญ่นอกตลาดอย่าง นิ่มลีสซิ่งของนิ่มซี่เส็งที่เป็นรายใหญ่ในภาคเหนือ
เรื่องอัตราดอกเบี้ยก็เป็นอีกเรื่องที่ต้องจับตามอง เพราะรายได้ของธุรกิจลีสซิ่งเป็น Fix ถ้าต้นทุนในการกู้เงินสูงขึ้น ผลตอบแทนจากการปล่อยสินเช่าก็จะลดลง ซึ่งอาจจะทำให้หุ้นที่มีค่าตัวสูงอย่าง MICRO กระทบได้
สุดท้ายต้องลุ้นอย่าให้เศรษฐกิจพัง เอาจริงๆผมว่า COVID ทำเอาผู้ประกอบการหลายรายเสียศูนย์ไปเยอะมาก หลายๆอุตสาหกรรมเข้าสู่วิกฤต การขนส่งมันก็คงลดลง ยอดซื้อรถบรรทุกมือ 2 ก็อาจจะลดตาม สินเชื่อก็จะชะลอ อัตราการเติบโตลดลง ต่อให้กราฟดีแค่ไหน ราคาหุ้นคงไปได้ไม่ไกล ถ้าพื้นฐานไม่เป็นใจครับ
ชอบบทความวิเคราะห์หุ้นรายตัวแบบนี้ ช่วยกด Like เป็นกำลังใจให้ เพจเทรนด์ลงทุน ด้วยนะครับ
และถ้าไม่อยากพลาดข้อมูลดีๆแบบนี้อย่าลืม Add LINE กันไว้ครับ อัพเดทเมื่อไหร่โพสบอกตลอดครับ
COMMENTS