Sensetime หุ้น IPO AI-as-a-Service Nvidia ของโลก Software

HomeStock

Sensetime หุ้น IPO AI-as-a-Service Nvidia ของโลก Software

Last Updated on 04/01/2022

ทุกคนที่เล่นหุ้นต่างประเทศและเทคโนโลยีต้องรู้จักหุ้น Nvidia

เจ้าของชิปประมวลผล AI สุดโหดที่ใช้ในการ์ดจอ GPU ที่ใช้เล่นเกม

DPU Data-Processing-Unit ที่ใช้ใน Data Center

และชิปประมวล Nvidia Orin ที่ใช้ในระบบ ADAS ระบบช่วยขับในรถทั่วโลก

ในมุมของ Hardware Nvidia กินเรียบ

แต่ในมุมของ Software ยังพอมีพื้นที่ให้เล่นโดยเฉพาะในประเทศจีน วันนี้เลยอยากจะมาคุยถึงบริษัท AI อันดับหนึ่งของจีน

ถ้าเราเคยจำได้เมื่อประมาณ 2-3 ปีก่อนมีภาพของคนจีนถูกระบบจดจำใบหน้าคอมพิวเตอร์แยกหน้าคนได้ โผล่มาในเน็ต

คนก็วิจารณ์กันไปต่างๆนานๆว่ารัฐบาลจีนละเมิดสิทธิมนุษย์ บางคนก็ชอบบอกคราวนี้โจรหนีไปไหนไม่ได้แล้ว จะออกมาดีหรือร้ายก็แล้วแต่

ณ.วันนี้บริษัทเจ้าของผลงานนั้นเข้าตลาดหุ้น Hongkong มาแล้วครับ บริษัทนั้นคือ Sensetime นี่เอง

Sensetime-work

บริการของ Sensetime คือเป็นธุรกิจ AI-as-a-Service ทำ AI สำหรับบริษัทที่ไม่อยากพัฒนา Model หรือทำ AI เป็นของตนเอง ด้วยข้อจำกัดหลายๆอย่าง

เช่น ไม่มี Knowhow, ไม่มีเวลาในการพัฒนา, ไม่คุ้มค่าที่จะทำเอง ไม่มี Economie of Scale, ไม่มีข้อมูลเพียงพอในการพัฒนา AI คุณภาพสูง และไม่สามารถทำ AI ที่มี Security ในระดับสูงได้

Sensetime เข้ามาตอบโจทย์ลูกค้าตรงนี้ ด้วยการเป็น บริษัทที่ทำ AI และจัดการ Training ให้เรียบร้อย

โดยสามารถทำตาม Requirement เพิ่มเติมของลูกค้าได้ด้วย ดังนั้นลูกค้าจึงมั่นใจได้ว่าได้โมเดล AI ที่เป็น State-of-the-art เป็น Base Model

ส่วนที่เหลือก็เอาไปพัฒนาเพิ่มเติมได้โดย Sensetime ช่วยพัฒนาร่วมกับลูกค้า

ลูกค้าของ Sensetime ก็ชื่อคุ้นๆกันดี Qualcomm, Nvidia, China Mobile, Huawei, Xiaomi, Honda รวมถึง Sansiri บ้านเราด้วย (ลูกบ้านแสนสิริเริ่มร้อนๆหนาวๆ ข้อมูลใบหน้าท่านอาจไปอยู่ที่ปักกิ่งแล้ว …. 555 ผมล้อเล่นนะครับ )

AI ของ Sensetime สามารถใช้ในอุปกรณ์หลากหลายมากๆ โดยแทบไม่มีข้อจำกัดว่าเป็น Chip อะไร ยี่ห้อไหน หรือเป็น Cloud Platform ของที่ไหน คือสามารถ Adapt เข้าได้หมด

นอกจากนั้น Sensetime ยังมีการพัฒนา AI ใน Usecase ต่างๆในแต่ละอุตสาหกรรมไว้ด้วย ทำให้ลูกค้ามาถึงสามารถหยิบไปใช้และพัฒนาได้เลย ณ.วันที่ 30 มิถุนายน 2021 บริษัทได้พัฒนา AI ไปแล้วกว่า 22000 โมเดล

Sensetime Business

Sensetime มี Market share ในตลาด AI  ของเอเซียที่ 11% เป็นบริษัท Computer Vision ที่ใหญ่ที่สุดในจีน

มีลูกค้ามากกว่า 2400 บริษัท เป็นบริษัทใน Fortune 500 ถึง 250 บริษัท และอยู่เบื้องหลังของแอปมากกว่า 200 Apps และเป็น Super App ที่มีคนใช้มากกว่า 500 ล้านถึง 5 Apps

ธุรกิจของ Sensetime

อุตสาหกรรมหลักที่ Sensetime ให้บริการอยู่ในตอนนี้คือ

Smart Business สัดส่วนรายได้ 39.2%

นึกภาพน่าจะคล้ายๆ Uipath แต่ Advance กว่าและทำเยอะกว่าแค่แก้ปัญหาเรื่อง Repetitive Task เช่นสามารถเอาไปตรวจ Defect ในสายการผลิตได้ หรือการตรวจสอบความผิดปกติของสายไฟระหว่างถนนด้วย AI

Smart City สัดส่วนรายได้ 47.6%

เอาข้อมูล Real-Time ในเมืองมาหา Insight และออกมาเป็น Execution เช่นการจ่ายไฟฟ้า หรือการควบคุมการจราจร ผมรู้จัก Sensetime จากข่าวเรื่องนี้เลยล่ะที่เอา AI ไปตรวจจับโจรในเมืองจีนได้

Smart Life สัดส่วนรายได้ 8.9% ทำ AI สำรับ IoT Device Apps และเกมส์
Smart Auto สัดส่วนรายได้ 4.3% ทำระบบ ADAS และ Smart Cabin System โดยเป็น Strategic Partner ของ Honda

Sensetime

Sensetime รับรู้รายได้จากจำนวนของ AI Model ที่พัฒนาให้กับลูกค้า จำนวน Device ที่บริษัทต้องตามไป Support ปริมาณการใช้งานทรัพยากรในการใช้งาน AI Models และบริการ Maintenance

รายได้ของบริษัทเติบโตค่อนข้างสูง และอัตรากำไรดีขึ้นเรื่อยๆ

  • 2018 – 1853 ล้านหยวน GPM 56%
  • 2019 – 3026 ล้านหยวน GPM 56%
  • 2020 – 3446 ล้านหยวน GPM 70%
  • 1H2021 – 1651 ล้านหยวน GPM 72%

แต่ Bottom Line ยังคงขาดทุนอยู่

(Adjusted Net Loss)

  • 2018 – ขาดทุน 150 ล้านหยวน
  • 2019 – ขาดทุน 1155 ล้านหยวน
  • 2020 – ขาดทุน 707 ล้านหยวน
  • 1H2021 – ขาดทุน 578 ล้านหยวน

หลักๆการขาดทุนมาจากการเพิ่มขึ้น R&D ,Admin expense, Stock based compensation ตัวนี้มีเพิ่มพิเศษหน่อยคือ Fair value losses of preferred shares ครับตัวนี้อิงกับอัตราดอกเบี้ย ไว้จะมาเล่าให้ฟังแบบละเอียดอีกครั้งนะครับ

จุดเด่นของ Sensetime คืออะไร?

1. AI ของ Sensetime เป็น State-of-the-art High performance ที่เมื่อเปรียบเทียบกับบริษัทอื่นๆ อันนี้ Make sense อยู่เพราะถ้าเป็น Leader ก็ต้องมีข้อมูลมากที่สุด ถ้าทีมงานดี Model AI ของ Sensetime ก็น่าจะเป็น Model ที่ประสิทธิภาพสูงอยู่แล้ว

2. ถ้าลูกค้าอยากทำ AI ในบาง Usecase หรือบาง Scenario ด้วยความที่ Sensetime เป็น Platform AI ดังนั้นการพัฒนาหรือปรับแต่งจึงไม่ยาก และมีค่าใช้จ่ายต่ำกว่า การพัฒนาขึ้นมาใหม่จาก 0

3. AI ของ Sensetime ใช้ได้กับ Chip และ Platform หลากหลาย ทำให้มีข้อจำกัดในการ Deploy น้อยกว่าที่อื่นๆ

4. มี Function Feature และ ประเภทของ AI ให้เลือกมากมาย

การเติบโตของ Sensetime

แล้ว Sensetime จะเติบโตได้ยังไง? หลักๆมีอยู่ 3 แบบคือ

1. ในเชิง Product ลด AI Production cost ลง ลดระยะเวลาในการพัฒนา และเพิ่มจำนวน AI Model ให้ทำงานได้หลากหลายขึ้น ราคาถูกลงแต่ทำงานได้ตอบโจทย์ลูกค้า ลูกค้าก็จะเข้ามาหาเอง

2. ในเชิงตลาด เพิ่ม Vertical และ Use cases ออกไปทำงานในอุตสาหกรรมอื่นๆนอกจาก 4 อุตสาหกรรมหลักที่เขียนไป ก็จะทำให้ขนาดของตลาด TAM ใหญ่ขึ้น และบริษัทมีโอกาสเข้าไปกิน Market Share AI ของอุตสาหกรรมนั้นๆมากขึ้น เช่นการออก Model ที่เกี่ยวข้องกับ AR VR MR มากขึ้น ก็จะเข้าไปกินแชร์ในตลาด Metaverse มากขึ้นเอง

3. เพิ่มตลาดให้บริการในอุปกรณ์ที่หลากหลายขึ้น ครอบคลุมประเทศและพื้นที่อื่นๆมากขึ้น เพราะในอนาคตใครๆก็ต้องใช้ AI (ผมเห็นอันนี้แล้วนึกถึงตลาด Cloud เมื่อ 3-4 ปีก่อนที่เริ่มขยาย)

อุตสาหกรรมของ Sensetime โตแค่ไหน?

ณ.ปัจจุบันถ้าเอาแต่ประเทศจีนอย่างเดียว ประเทศจีนถือเป็นตลาด AI Software อันดับ 2 รองจากสหรัฐฯ โดยมีการเติบโตที่ปีละ 41.5% !!!

ในช่วงปี 2020-2025 โดยสัดส่วนของ AI Software จะโตจากที่มีสัดส่วน 9% ของตลาด Software ทั้งหมดไปเป็น 24.1% ของตลาดในปี 2025

โดยตลาดที่ใหญ่ที่สุดของ AI Software คือ Computer Vision มีสัดส่วนประมาณ 56%-60% (ของถนัดพี่จีนเค้าล่ะ)

แล้ว Sensetime จะชนะในตลาด AI ได้ไง? เอาจีนก่อนนะยังไม่ต้องพูดถึงครองโลก

คำตอบของตรงนี้อยู่ที่คำเดียวเลยคือ “การลงทุน” ทำ R&D หนักๆโหดๆเอาเงินฟาดให้อันดับสองสู้ไมได้ เพราะในโลกของ AI ผมรู้สึกลึกๆว่ามัน Winner Take All นะ

คนที่ทำ AI เก่งที่สุด จะประสิทธิภาพสูงมากๆ ต้นทุนในอนาคตจะต่ำสุดๆ (คือมัน Software อ่ะ) ถ้าสามารถเข้าถึงข้อมูลเยอะๆได้ ผมว่าโอกาสที่คู่แข่งใหม่ๆจะแข่งได้นี่ยากจริงๆ

ผลเลยออกมาด้วยการเห็นค่าใช้จ่าย R&D เพิ่มแบบสุดซอย Sensetime มีกำไรขั้นต้นในปี 2020 2400 ล้านหยวน R&D จัดไปแล้ว 2400 ล้านหยวนเช่นกัน ทรงนี้ก็หมดสิฮะ !!!

กำไรเท่าไหร่ พี่ท่านเอาไปลง R&D หมด แต่ถ้ามองอีกมุมหนึ่งเป็นสัดส่วน R&D ต่อรายได้จะเห็นว่าจริงๆแล้วมันกำลังลดลงนะ ปัจจุบันเท่ากับ 107% ของรายได้เท่านั้น 555 อันนี้ยังไม่นับค่าใช้จ่าย SG&A อื่นๆที่ก็เพิ่มมาเช่นกัน

อย่างไรก็ตามถ้าจะซื้อ Sensetime ก็ต้องคาดหวังว่ารายได้จะเติบโตเยอะๆให้ Scale ใหญ่โคตรๆ จนถึงจุดๆนึงค่าใช้จ่ายมันโตตามไม่ทัน

แล้วความเสี่ยงของ Sensetime ล่ะ?

ความเสี่ยงของลูกค้าน้อยราย ในแต่ละ Segment ลูกค้ารายใหญ่มีสัดส่วนมากถึง 60-90% ถ้าลูกค้าหันไปทำเองนี่อาจจะจุกได้ ตรงนี้ต่างกับ Uipath พอสมควรเพราะลูกค้า Uipath กระจายมากกว่าเยอะ

บริษัทใหญ่ๆอาจจะคิดว่า บริการของ Sensetime สำคัญเกินไป เกินกว่าจะ Outsource มาใช้ Generic Model พวกบริษัทใหญ่ๆที่มี Scale คงทำเองหมด อะไรที่ไม่สำคัญถึงจะมาที่ Sensetime?

ต่างประเทศจะใช้ไหม AI จากจีน? รายได้ของบริษัทมาจากจีน เอเซีย 12% อันนี้ยังเป็นเครื่องหมายคำถามตัวใหญ่ๆ ไม่ต้องถามว่าสหรัฐฯจะใช้ไหมนะ 555

Revenue by country

การแข่งขันก็สำคัญ Sensetime มี Market Share 11% อันดับ 2 มี 6% อันดับ 3 มี 4% ก็ถือว่ายังทิ้งกันไม่มากครับ แถมพวก AI Segment สำคัญๆเช่น Smart Auto ที่ไปทำ Autonomus Car ของ Sensetime ยังมีสัดส่วนน้อยมาก

สรุปแล้วถือเป็นบริษัทที่น่าสนใจมากๆ อุตสาหกรรมโตสูง ตัวบริษัทเองก็โตสูง Metric หลักๆที่ต้องต้องติดตามน่าจะเป็น จำนวนลูกค้า อุตสาหกรรมที่บริษัทขยายธุรกิจ AI เข้าไป การเติบโตของรายได้ของบริษัท และ Adjusted EBITDA ครับ

Adjusted EBITDA ปีนี้น่าจะติดลบประมาณ 1000 ล้านหยวน เดาๆนะครับ ถ้าปีหน้าบริษัทโตได้ 20-30% อัตรา Margin เท่าเดิม ค่าใช้จ่าย R&D สูงกว่าเดิมซัก 10% ผมว่า 2-3 ปีก็ Adjusted EBITDA เป็นบวกได้เลย

ใครสนใจข้อมูลต่อกดติดตามกันไว้นะครับ จะมีบทความ Deep Dive ตามมาอีกไม่ช้าจ้า ตัวนี้ยังไงก็ต้อง Deep Dive แน่นอนครับ

ชอบบทความวิเคราะห์หุ้นรายตัวแบบนี้สามารถติดตามผ่าน FB Page: เทรนด์ลงทุน และ LINE@Trendlongtun ครับ

COMMENTS