ทำไมหุ้น Tesla ถึงควรมีพรีเมี่ยม? ในวันที่หุ้น Tesla ราคาแตะ Trillion

HomeStock

ทำไมหุ้น Tesla ถึงควรมีพรีเมี่ยม? ในวันที่หุ้น Tesla ราคาแตะ Trillion

Last Updated on 10/12/2021

ไม่ได้เขียนถึง Tesla ซะนานมากๆ ตอนนี้มูลค่าบริษัท Trillion Dollars แล้ว

จะบอกว่าผมเริ่มต้นศึกษา EV จาก Tesla และก็เริ่มศึกษา EV ตัวอื่นๆด้วยเพราะเห็นว่ามูลค่าบริษัทที่ได้ยังถือว่าไม่สูงเท่า Tesla และอาจจะมีโอกาสโตก้าวกระโดดแบบ Tesla ในอนาคต

ดังนั้นการซื้อหุ้นรถไฟฟ้า Wave 2 (ผมเรียกหุ้นรถไฟฟ้าที่มาหลัง Tesla มา Wave 2) น่าจะมีโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่สูงกว่า จริงหรือไม่?

นอกเหนือจาก Capacity ของ Tesla ที่สูงกว่า ในบางมุมก็รู้สึกว่าหุ้นแต่ละตัวไม่ได้มีโครงสร้างธุรกิจที่เหมือนซะทีเดียว

พอศึกษาไปซักระยะ อ้างอิงจากหลายๆ Source พอจะสรุปสั้นๆให้ตัวเองได้ประมาณ 9 ข้อมาเขียนแชร์ให้เพื่อนๆอ่านกันครับว่าทำไมหุ้น Tesla ถึงควรมีพรีเมี่ยมมากกว่าหุ้นรถไฟฟ้าตัวอื่นๆ (พรีเมี่ยมคือมีราคาแพงกว่าเมื่อนำมาเปรียบเทียบกัน)

ใครมีไอเดียอะไรก็เติมเข้ามาได้เลยครับ

1.ARK Invest ให้ Value ของ Tesla กว่าครึ่งหนึ่งมาจาก Robotaxi นั่นหมายความว่าถ้าบริษัท EV อื่นๆไม่ได้ทำ Robotaxi หรือไม่มีแนวโน้มว่าจะสำเร็จเลย

ที่การผลิตและส่งมอบรถเท่ากับควรมี Value ที่ต่ำกว่า Tesla อย่างน้อยครึ่งหนึ่ง

Cathie Wood บอกว่า Tesla มีโอกาสสำเร็จ 50% ครับ

ปัจจุบันกำลังการผลิตของ Tesla ถือว่าเยอะที่สุดในโลกนะครับ ปีหน้า 1.2-1.5 ล้านคัน เจ้าอื่นๆยังตามอยู่อย่างน้อย 50%ครับ

2. CEO ในการลงทุนตัว CEO สำคัญมากๆต้องบอกว่า Elon Musk มีส่วนผมว่า 70-80% ที่ทำให้ Tesla Innovate มาได้ถึงจุดนี้

ถ้าบริษัทแบรนด์อื่นๆไม่ได้มีผู้บริหารที่เก่งและมี Ownership ในธุรกิจมากพอก็ควรจะต้องถูก Discount

3. Tesla มีธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องสนับสนุนเยอะมาก เช่นแบตเตอรี่ ธุรกิจ AI หรือธุรกิจ Chip จะเห็นว่าบริษัทอื่นๆไม่ได้มีธุรกิจ Fullstack เทียบเท่า Tesla หลายๆบริษัทเรียกตัวเองว่า Fullstack Tech แต่ก็มีแค่การออกแบบรถ แบตเตอรี่ เก่งสุดคือระบบ Autonomous แต่ถึงขั้นไปทำ Chip เอง ทำระบบ Neural Net เองยังไม่มี

ลองนึกภาพการทำโรงงานที่จ้างคนอื่นผลิตชิ้นส่วนตัวเองแค่เอามาประกอบ กับลงทุนลงแรงไปทำเองตั้งแต่ต้นน้ำ ถึงขั้นไปซื้อเหมือง ทำแบบหลังย่อมต้องสำเร็จยากกว่า ใช้ Effort สูงกว่า หุ้นควรมีพรีเมี่ยม

4. Tesla มีโอกาสเป็น Winner Take Most สูงมาก เริ่มเห็นแล้วในหลายๆตลาดที่ Tesla มี Market Share สูงกว่า 70% แบรนด์อื่นๆยังไม่เห็นแบรนด์ไหนมี Market Share อย่างมีนัยยะเลย ใกล้สุดน่าจะเป็น BYD

ฝั่ง ICE ผมให้ไม่ Ford ก็ VW … ในมุมมองระยะยาว Tesla บอกว่าจะมี Market Share แถวๆ 30% ผมค่อนข้างมั่นใจว่า Tesla ทำได้

ในขณะที่แบรนด์อื่นๆผมว่า 5-10% ยังต้องลุ้นเหนื่อยอยู่ ดังนั้นถ้าหุ้นตัวไหนไม่ต้องลุ้นก็ควรได้พรีเมี่ยม

5. Tesla มี Business Model ไม่เหมือนหุ้นตัวอื่น ขายรถผ่านทางออนไลน์ ตัดดีลเลอร์ออกไป แผนก PR ไม่มีใช้ Elon Musk แทน โฆษณาก็ไม่เคยทำ การตลาดมาจาก Organic ล้วนๆ (คล้ายๆกับเคส Airbnb vs Booking)

ในขณะที่แบรนด์อื่นๆก็ยังคงเป็น Business Model รถยนต์แบบเดิมๆ แบบนี้ Tesla ก็ควรได้พรีเมี่ยม

6. ชิ้นส่วนที่ดีที่สุดคือการไม่มีชิ้นส่วนเลย Efficiency Tesla น่าจะเป็นหนึ่งในบริษัทรถยนต์ที่มี Efficiency สูงสุดในโลกแล้ว ในทุกๆมุม ไม่ว่าจะเป็นการผลิต Logistic หรือ Software สังเกตจากวิกฤตชิปหาย ที่ผ่านมาบริษัทรถยนต์ ICE บ่นว่าส่งรถไม่ได้เพราะชิปขาด

แต่บริษัทรถยนต์ EV หลายที่ไม่เห็นเกิดปัญหานี้ จุดนี้บ่งบอกประสิทธิภาพขององค์กรมากๆครับ ซึ่งสุดท้ายส่งผลไปถึง Bottom Line ระดับ Best-of-Class ประสิทธิภาพสูงก็ควรมีมูลค่าบริษัทที่สูง

7. การส่งมอบรถของ Tesla ไม่มีปัญหาในฝั่ง Demand เลย เพราะคนเข้าคิดจองรถแบบนานมากๆ 3-6 เดือน บางรุ่นรอเป็นปีๆ Capacity ต้องเพิ่มมารองรับณ.ปัจจุบันยังไงก้ไม่ทัน ดังนั้นปัญหาของ Tesla จึงไม่ใช่ปัญหาเรื่องการขาย

แต่เป็นปัญหาว่าจะผลิตให้ทันส่งมอบได้ยังไงตะหาก อารมณ์คล้ายขนมร้านดังที่มีคนต่อคิวกิน กับร้านขนมที่ต่อให้เปิด 24 ชม. ยังมีคนกินน้อย ก็ไม่ควรได้ Valuation ที่เท่ากันครับ

8. ในเชิงของราคาหุ้น Tesla มี Hardcore Fanclub ที่พร้อมเกิดและตายกับหุ้น Tesla ผมนึกไม่ออกจริงๆว่ามันจะมีหุ้นตัวไหนมี Fanclub แบบนี้อีก ใกล้เคียงสุดน่าจะเป็น Apple ยุค Steve Jobs เข้า Facebook, Twitter, Youtube ต้องเจอ Content เชียร์ Tesla ทุกรอบ

Elon เองก็ออกของมาให้กองเชียร์ซื้อไปบูชาต่อเนื่อง ตากิล่า นกหวีด รถเด็ก เหนียวแน่นขนาดนี้หุ้นไม่ได้พรีเมี่ยมให้มันรู้ไป

9. Tesla กำไรแล้ว กำไรดีด้วย โอกาสเพิ่มทุนอีกแบบเยอะๆน่าจะน้อยมาก ถึงเพิ่ม Fanclub ข้อข้างบนก็คงสนับสนุน ซึ่งต่างกับ EV อีก 98% ของโลกที่ยังลุ่มๆดอนๆ กำไรเหวี่ยงไปมา เงินมีมั่งขาดมั่ง เพิ่มทุนมั่งอยู่ ก็ควรต้องมี Discount จากหุ้นที่เขายืนด้วยตนเองได้แล้วครับ

ตั้งแต่เขียนบทความ EV มาหลายตัว ผมว่าประเด็นเหล่านี้แหละที่ทำให้ Tesla มีพรีเมี่ยม เสมอเมื่อเทียบกับรถ EV แบรนด์อื่นๆ ในทางกลับกัน ถ้า EV แบรนด์อื่นที่ไม่เคยมี 9 ข้อที่กล่าวข้างบน เริ่มมีมากขึ้นเรื่อยๆก็อาจจะเป็นตัวปลดล๊อค Value ให้กับรถ EV แบรนด์นั้นมีราคาที่พรีเมี่ยมขึ้น ก็เป็นไปได้ครับ

อีกอย่างหนึ่งที่ผมเขียนบทความนี้ไม่ได้หมายความว่าหุ้น EV แบรนด์อื่นจะโตไม่ได้นะครับ ถ้าเป็นเบอร์ 2-3-4 ได้ผมว่า Runway ยังมีอีกเยอะมากอยู่ดีครับ แต่อาจจะไม่ไปมูลค่าบริษัท Trillion แบบ Tesla ในเร็วๆนี้ (จะถึง Trillion ไหมนี่ผมยังรู้สึกว่าโอกาสเป็นไปได้ยากอยู่)

อย่างไรก้ตามตอนนี้หุ้นรถไฟฟ้าที่ผมรู้สึกว่ามีพรีเมี่ยมแบบสุดๆเลย Lucid และ Rivian สงสัยได้งาน ต้องเข้าไปเจาะลึกเพิ่มอีกแล้ว 555

ชอบบทความวิเคราะห์หุ้นรายตัวแบบนี้สามารถติดตามผ่าน FB Page: เทรนด์ลงทุน และ LINE@Trendlongtun ครับ

 

COMMENTS