Last Updated on 10/05/2021
TOG เป็นหุ้นนอกสายตาตัวหนึ่งที่นักลงทุนเลิกสนใจกันไปนานมากแล้ว
เพราะสินค้าเลนส์แว่นตาที่บริษัทผลิต เจอการแข่งขันด้านราคา กดดันกำไร
แถมพอมาเจอการระบาดของ COVID ทำให้รายได้และกำไรของบริษัทลดลงหนักจนไตรมาส 2 ปี 2563 ที่ผ่านมาขาดทุนไป 50 กว่าล้าน
อย่างไรก็ตามต้องบอกว่าด้วยสถานการณ์ในตอนนี้และสิ่งที่บริษัททำได้พลิกเกมจากบริษัทที่ย่ำแย่ กลับมาโตอีกครั้งได้
ไตรมาส 1 ปี 2564 ที่ผ่านมา บริษัทประกาศกำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 96 ล้าน หลังวันที่ประกาศงบ หุ้นขึ้นซิลลิ่งทันที
แต่ต่อจากนี้จะเป็นยังไง? ยังน่าซื้ออยู่หรือไม่? มาดูกันครับ
มุมเทคนิค
ราคาหุ้น TOG เคยลงไปต่ำสุดที่ 2.95 บาท ที่ราคาปิดเมื่อวันศุกร์ที่ 7 พค.ที่ผ่านมา อยู่ที่ 6 บาท ถือว่าราคาหุ้นขึ้นมาจากจุดต่ำสุดแล้ว 100% นิดๆ
ขึ้นมา 100% มากไหม? เอาตรงๆไม่มากเลยครับ ตอนนี้หุ้นขึ้น 100% จากจุดต่ำสุดเต็มไปหมดเลย บางตัวขึ้น 300-400% แล้วแต่ตัวไปว่ากระทบมาก กระทบน้อย
ความน่าสนใจในเชิงเทคนิคของหุ้น TOG อยู่ที่ TOG เป็นขาลงมาตลอดตั้งแต่ปี 2560 แม้จะมีดีดตัวบ้างก็ไม่เคยทะลุ Channel Trend ขาลงขนาดใหญ่ได้เลย
หุ้นเพิ่งวิ่งขึ้นมาแรง และทะลุแนวต้านขาลงมาได้เมื่อต้นเดือนมีนาที่แถวๆ 4.45 บาท หลังจากนั้นพักตัวเล็กน้อย พองบออกมาโตเยอะมากก็เป็นแบบที่เห็นครับ
สรุปถือว่าหุ้นตัวนี้เบรกแนวต้านมาได้แล้ว โอกาสวิ่งแรงมีเยอะซึ่งก็วิ่งแรงไปแล้ว 1 Shot ต่อจากนี้ไปผมคิดว่ายังไปได้อีก แต่ระยะสั้นๆคงต้องมีพักบ้างเพราะวิ่งมาแรง ระยะยาวๆยังคงดูดี
มาดูกันว่าแล้วข้อมูลเชิงธุรกิจและพื้นฐาน Support การวิ่งขึ้นของหุ้น TOG ครั้งนี้อย่างไร?
มุมธุรกิจ
หุ้น TOG ทำธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายเลนส์แว่นตา มีทั้งแบบ Standard ที่เน้นวอลุ่ม กำไรไม่สูงมาก และแบบพิเศษซึ่งมีกำไรสูงกว่าแบบแรกเยอะ ให้กับร้านแว่นและตัวแทนจำหน่ายทั่วโลก
ลูกค้าของ TOG มีทั่วโลก 95% ของยอดขายทั้งหมดมาจากนอกประเทศไทย มีเพียง 5% เท่านั้นที่มาจากประเทศไทย
สัดส่วนรายได้หลักของธุรกิจมาจาก 4 โซนใหญ่คือ ยุโรป 29.4% ออสเตรเลีย+นิวซีแลนด์ 34.7% เอเชีย 23% อเมริกา 13%
โซนที่น่าสนใจมากที่สุดในตอนนี้คือสหรัฐอเมริกาเพราะมีการเติบโตที่สูงมาก ถ้านับยอดจากไตรมาส 3 ที่ผ่านมา โตเกิน 100% จาก 35 ลบ..ในไตรมาส 2 มาเป็น 69 ลบ. ในไตรมาส 3 พอเห็นภาพนะครับ
มุมพื้นฐานงบการเงิน
มาถึงไตรมาส 1 ปี รายได้รวมโต 27% แต่พอไปดูใส้ในจะเห็นว่า อเมริกายังโตเยอะอยู่โต 85% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ปี 2563 เอเชียโต 72% ยุโรปโต 17%
โดยรายได้ของเลนส์ที่มีอัตรากำไรสูงอย่าง เลนส์พลาสติกมูลค่าเพิ่ม และเลนส์สั่งในพิเศษ เป็นสัดส่วนสูงถึง 68% ของรายได้
พอบริษัทมีการผลิตที่มากขึ้น Economy of Scale จึงเกิดตามมาทำให้รายได้โต แต่ต้นทุนไม่โตตาม ไตรมาส 1 นี้ต้นทุนลดลงเหลือ 75% จากที่เคยอยู่ 80%+
นอกจากนั้นในช่วง COVID ที่ TOG มีออเดอร์เข้ามาน้อย TOG ยังถือโอกาสพัฒนาและปรับปรุงไลน์การผลิตเพื่อให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นและต้นทุนที่ต่ำลง จึงเป็นผลให้อัตรากำไรดีขึ้นอย่างที่เห็น
กำไรไตรมาสละ 96 ล้านเยอะแค่ไหน? ถ้าเทียบปี 2563 ทั้งปีที่ทำได้ 68 ล้าน ถือว่าไตรมาสเดียวเท่ากับปี 2563 ทั้งปี ถ้าเทียบปี 2562 ที่ปกติหน่อยทำกำไรได้ 132 ลบ. 96 ล้านที่ทำได้ในไตรมาส 1 นี่ก็ยังเยอะอยู่ดี 70% ของรายได้ทั้งปี
ลองคำนวณแบบกำปั้นทุบดินถ้ายังสามารถทำกำไรแบบนี้ได้ไปอีก 4 ไตรมาส ต้องมีกำไรอย่างน้อย 360 ลบ. Market Cap ตรงนี้ 2800 ลบ. P/E เพียง 7 เท่าเท่านั้นสำหรับหุ้นที่ Turn Around กลับมาทำรายได้โตได้มากกว่า 20% แถมกำลังจะเพิ่มกำลังการผลิตถ้าคำสั่งซื้อมาต่อเนื่อง
แต่ความเสี่ยงมันก็อยู่ตรงคำสั่งซื้อนี่แหละครับ ที่จะทำให้การเอากำไร 90 x 4 มันเป็นไปได้ยากเหมือนกัน
ความเสี่ยง
การเติบโตครั้งนี้ของ TOG ส่วนหนึ่งมาจาก Pent-Up Demand หรือกำลังซื้อที่อั้นไว้ในช่วง COVID ที่ทำให้คนไม่ออกมาตัดแว่นซื้อแว่น พอมีวัคซีนเปิดเมืองปุ๊ปก็เลยทำให้คนแห่ออกมาซื้อแว่นใหม่
ร้านแว่นพอช่วง COVID ต้องปิดร้าน ขายไม่ได้ก็ไม่มีใครสั่งของ สต๊อคของหร่อยหรอ ทุกคนก็รีบสั่งซื้อเพราะกลัวจะไม่มีของขาย เลนส์แว่นมันเก็บได้ไม่เสีย ไม่หายอะไร สั่งเยอะแล้วเหลือยังดีกว่าสั่งน้อยแล้วของขาด ไม่มีของขาย
นี่ก็เลยเป็นสาเหตุที่ทำให้ยอดขายในไตรมาส 1 อาจจะมากเกินปกติที่ควรจะเป็น
ยิ่ง TOG เป็นหุ้นประเภทโรงงานผลิต พอใช้อัตราการผลิตสูงๆ ต้นทุนมันไม่เพิ่มตาม กำไรก็ดีดตัวมาก ได้ข่าวว่าตอนนี้ใช้กำลังการผลิตมากกว่า 80% แล้ว ซึ่งก็อธิบายได้ว่าทำไมกำไรดีขนาดนี้ ตอนนี้อัตรากำไรสุทธิ 16% เทียบกับ 6-9% ในช่วง 3 ปีก่อนถือว่าเยอะโคตรๆ
ปัญหาของ TOG จึงอยู่ที่ว่าจะสามารถ Sustain การเติบโตระดับนี้และผลกำไรระดับนี้ในระยะยาวได้หรือไม่? ถ้า Sustain ได้ราคานี้ค่อนข้างถูกเลยทีเดียว
แต่ๆสิ่งที่เป็นความเสี่ยงหนักๆอีกอันคือเรื่องสภาพคล่องของหุ้นที่บางมากๆ ใครซื้อเข้าไปถึงมีกำไรก็อาจจะขายไม่ได้เพราะไม่มีสภาพคล่องให้ขาย การจะซื้อก็ได้ไม้ละไม่เกินแสน ต้องใช้ความอดทนในการเก็บมากพอสมควร ซึ่งถ้าเป็นแบบนี้ไปเล่นหุ้นตัวอื่นอาจจะง่ายกว่าก็ได้
อนาคตของหุ้น TOG
ตอนนี้บริษัทมีการไปเปิดศูนย์กระจายสินค้าไว้ในสหรัฐฯและโปแลนด์ เพื่อกระจายสินค้าในอเมริกาและยุโรป การทำแบบนี้จะทำให้ลูกค้าสามารถสั่งของได้เร็วและไม่ต้องตุนไว้เองมาก
นอกจากนั้นยังมีการพัฒนาแบรนด์เลนส์แว่นตาแบบพิเศษ Z Design เริ่มมีการติดตลาดขึ้นมาแล้ว ทางบริษัทก็พัฒนาแบรนด์ออกมาเรื่อยๆ ซึ่งตัวนี้จะเป็นตัวที่ Drive Margin ทำให้อัตราการทำกำไรดีขึ้นเรื่อยๆ
ตอนนี้แม้ 80% ของวอลุ่มการขายจะมาจากเลนส์ Standard ทั่วๆไป แต่ถ้าดูที่กำไร คือมากกว่า 50% มาจากเลนส์แว่นพรีเมี่ยมแล้ว
สิ่งที่น่าติดตามคือยอดขายหลังจบช่วง Pent-Up demand ว่าจะเติบโตเท่าไหร่? และผู้บริหารยังมีมุมมองในการเพิ่มกำลังการผลิตอีกหรือิไม่?
แต่ถ้าดูในปี 2564 ผมเชื่อว่ายังเป็นปีที่ดีอีกปีของ TOG ครับ ปกติปันผลหุ้น TOG 90%+ ปีนี้ถ้า EPS 0.4-0.5 ราคานี้ก็ปันผล 6%-7.5% ครับ ถือรับการเติบโตก็ดี รอกินปันผลก็ไม่แย่ ขออย่างเดียวออเดอร์อย่าตกเยอะละกัน ไม่งั้นมีหนาว !
ชอบบทความวิเคราะห์หุ้นรายตัวแบบนี้ อย่าลืมกด Like ติดตามข้อมูลหุ้นที่ เพจเทรนด์ลงทุน ครับ
และถ้าไม่อยากพลาดข้อมูลดีๆแบบนี้อย่าลืม Add LINE กันไว้ครับ อัพเดทเมื่อไหร่โพสบอกตลอดครับ
COMMENTS