สรุป Earning Call หุ้น UPST ไตรมาส 1 ปี 2022 อัตราค้างชำระจะสูงขึ้น ลงทุน Auto เข้าสู่ตลาดรายย่อย และ SMB มีการพูดถึง R-Word

HomeStock

สรุป Earning Call หุ้น UPST ไตรมาส 1 ปี 2022 อัตราค้างชำระจะสูงขึ้น ลงทุน Auto เข้าสู่ตลาดรายย่อย และ SMB มีการพูดถึง R-Word

Last Updated on 11/05/2022

สรุปงบการเงิน 1Q2022

เมื่อคืนหุ้น UPST ตกลงไป 56% เหลือราคา 33.6 เหรียญที่ราคานี้ มีอะไรบ้างที่นักลงทุนต้องรู้?

UPST เป็นหุ้นที่เคยขึ้นไปสูงถึง 400 เหรียญ ในช่วงเดือนตุลาคมปี 2021

หลังจากนั้นหุ้นตกมา Sideway อยู่แถวๆ 70-140 เหรียญอยู่พักนึง ซึ่งตอนนั้นถือเป็นการตกลงมาแล้ว 80% จากจุดสูงสุด สิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนั้นคือการเติบโตของ UPST มีแนวโน้มลดลงจากฐานที่สูงขึ้น อัตราการทำกำไรลดลงจากการลงทุนเพิ่มในธุรกิจใหม่ Auto

แต่แล้วหุ้น UPST ก็ทะลุแนวรับลงมาอย่างรุนแรงเมื่อคืน ลงจาก 70 เหรียญ รวดเดียวไปต่ำสุด 29 เหรียญหลังบริษัทประกาศงบไตรมาส 1 และออก Earning Call

เรียกได้ว่าใครจิ้นอยู่นี่ล้างกันไม่ทันแน่นอน โดน Call กันกระหน่ำแน่นอน

ราคานี้นักลงทุนต้องรู้อะไรบ้าง?

Forward Price/Sales อยู่ที่ประมาณ 2.3 เท่า

EV/Sales อยู่ที่ราวๆ 5.2 เท่า

P/E จะกลับไปเป็น n/a เพราะบริษัทน่าจะกลับไปขาดทุนใหม่ หลังจากกำไรมาได้ 6-7 ไตรมาสติดๆกัน

EV/Adj.EBITDA 15 เท่า

บริษัทมีเงินสด 700 ล้าน และพอร์ตหนี้ 597 ล้าน (หลายคนอาจจะงง อ้าวเป็น Platform AI Lending ตัวกลางไม่ใช่เหรอ ทำไมมีถือหนี้อยู่ใน Balance Sheet เดียวเล่าให้ฟังครับ)

ใครไม่รู้ว่า UPST ทำธุรกิจอะไร มีการเติบโตระยะยาวประมาณไหน ลองไปอ่าน UPST Deep Dive ดูนะครับ และถ้าจะให้ดีควรสมัครสมาชิกไว้ด้วยครับ ความเสี่ยงที่เขียนไว้ใน Deep Dive มากันครบเลยจ้า 555

รอบนี้ผมของสรุปแยกเป็นความ Bull และ ความ Bear ของ Earning Call นะครับจะได้ดูกันง่ายๆ (แต่ความ Bear มันเยอะกว่าเยอะมากหุ้นเลยลงหนัก)

สรุปความ Bear ของ Earning Call รอบนี้

1.บริษัทลด Guidance ลงประมาณ 10% เพราะแนวโน้มตลาดเริ่มเปลี่ยนไปอย่างชัดเจน วิกฤตที่ผ่านมารัฐบาลแจกเงินเลยทำให้เศรษฐกิจดีเวอร์ หนี้เสียลดลง แต่ตอนนี้กำลังกลับข้างกัน

2.พอหนี้เสียเริ่มเพิ่มขึ้น จุดอ่อนของ UPST คือบริษัทเป็น AI Engine ให้กับธนาคาร นั่นหมายความว่าถ้าธนาคารตัดสินใจชะลอการปล่อยกู้ หรือเพิ่มดอกเบี้ย จะกระทบถึงอัตราการอนุมัติสินเชื่อที่เติบโตน้อยลง หรือไม่โต และแน่นอนรวมไปถึงค่า Fee ที่ UPST ได้รับด้วย …. ซึ่งสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นก็คือสิ่งนี้เลย ลองไปอ่านรายละเอียดเพิ่มในส่วน Risk ของบทความ Deep Dive นะครับ

3.ธนาคารขึ้นดอกเบี้ย ทำให้ดอกสูงขึ้น ก็จะทำให้คนกู้มีแรงจูงใจที่จะกู้น้อยลง Demand ก็จะหดตัวลงครับ

4.แน่นอนว่าดอกเบี้ยขึ้น Cost of Fund ก็จะสุงขึ้น ความน่าสนใจที่นักลงทุนจะซื้อหนี้ของ UPST ก็จะลดลงโดยธรรมชาติ ตรงข้อนี้เลยทำให้นักวิเคราะห์กลัวว่า UPST จะมีปัญหา Funding

5.UPST เข้าสู่ Cycle ของการลงทุนใหม่แบบเต็มๆ เริ่มบุกตลาด Auto Loan และ Small Retail Loan ทำให้อาจเกิดค่าใช้จ่ายสูงขึ้น โดยเน้นไปที่ R&D

6.การเข้าสู่ตลาดใหม่อย่าง Auto Loan บริษัทจำเป็นต้องมีการปล่อยสินเชื่อด้วยตัวบริษัทเองก่อน เพื่อเอาหนี้เหล่านั้นมาทำ Model ให้ AI และเอาผลการปล่อยกู้ไปให้ Dealer ดูว่ามันดีและเจ๋งกว่าการปล่อยกู้ตามปกติ เลยทำให้มีหนี้อยู่บน Balance sheet ซึ่งหนี้อันเนี้ยประมาณ 75% เป็นหนี้ที่บริษัทเรียกว่า R&D คือปล่อยเพื่อ R&D

7.แล้วอีก 25% คืออิหยัง? อีก 25% คือหนี้ที่บริษัทเรียกว่า Bridging Loan ที่ใช้เมื่อเกิดความผันผวนของดอกเบี้ยในตลาดมากๆ เช่นตอนลูกค้าขอสินเชื่อเข้ามา ได้เรท 15% แต่ตอนอนุมัติเสร็จดันกลายเป็น 16% เพราะดันไปขอตอนที่ J.Powell ประกาศขึ้นดอกพอดี บริษัทยังไม่ได้ทำระบบ Automate ตรงนี้เป็น Manual อยู่ เลยแก้ปัญหาด้วยเงินซะเลย ใช้สภาพคล่องของบริษัทมารับหนี้ที่ติดปัญหาตรงนี้ไว้แทนไม่ให้เสียลูกค้า แต่ตรงนี้แหละที่ทำให้นักวิเคราะห์เริ่มสงสัยว่าเอ๊ะ หรือธนาคารไม่ยอมปล่อย บริษัทเลยต้องรับไว้แทน?

8.เรื่อง Loan on Balance sheet นี่ถามกันหลายคนมากๆ ผมว่านักวิเคราะห์คงกังวลเรื่องนี้กันเยอะ กลัวจะมีการตั้งหนี้สูญ?

9.ความชิบห_ยจะเกิดขึ้นสูงสุดคือ หนี้ที่อยู่บน Balance sheet เป็นหนี้ Auto ใช่มะ? แล้วตอนนี้ตลาดรถยนต์กำลังเข้าสู่ช่วงขาลง คือก่อนหน้านี้รถมัน Shortage ราคาเลยขึ้น ตอนนี้กลับกันราคาเริ่มตก อาจทำให้หนี้เสียสูงขึ้น?

10.มุมมองเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลังดูไม่ดี บริษัทเลยมีพูดว่าอาจจะเกิด Recession ขึ้น ที่ไหนมี R-Word อันนี้ ที่นั่งวงแตกฮะ

11.ถ้าสังเกตดีๆ Guidance รายได้ 1.25 Billion มันเท่าๆกับรายได้ของบริษัทตอนนี้ x 4 เลย นั่นหมายความหลังจากไตรมาสนี้เป็นต้นไปจะไม่โต QoQ เลย?

12.เท่านั้นไม่พอกำไรที่เคยมีก็จะกลายเป็นขาดทุนแทน เพราะต้องลงทุนเพิ่มจากการขยายธุรกิจใหม่

ทั้งหมดนี้ก็เลยกลายเป็นผลให้ราคาหุ้นตกลงมาหนักโคตรๆ แม้ก่อนหน้านี้จะตกลงมาหนักแล้ว

อย่างไรก็ตามในมุมของ Product และ Progress ของบริษัทถือว่ามีสิ่งที่ก้าวหน้าไปพอสมควร

สรุปความ Bull ของ Earning Call รอบนี้

1.ถ้าอ่านสรุปความ Bear ด้านบนจะเห็นว่าปัจจัยส่วนใหญ่ที่มากระทบเป็น External – Macro Factor ซะเยอะ ด้วยความที่ UPST เป็นธุรกิจประเภท Economic Cycle ก็จะตามเรื่อง Macro เยอะหน่อย น่าจะมีแค่เรื่องการขยายธุรกิจใหม่ที่เป็น Internal ดังนั้นประเด็นจึงอยู่ที่ว่า External Factor รอบนี้จะอยู่นานแค่ไหน Inflation จะพุ่งกระฉูดตลอดไปหรือไม่? Fed จะขึ้นดอกเบี้ยแบบ Infinity ได้หรือเปล่า? จีนจะปิดประเทศ Forever หรือไม่? สงคราม Ukraine จะรบกันไปอีก 10 ปีไหม?

2.Dave มี Mention ว่าบริษัท “See clear path to building a company with more than 10 Billion revenue in the coming years” ในตลาดที่มีการอนุมัติหนี้ 6 Trillion ต่อปี ก็ดูเป็นไปได้สูงอยู่นะ

3.มี Partner เลิกใช้ FICO Score มากขึ้น จาก 7 กลายเป็น 11 ราย และมี Partner ธนาคารและ Dealer รถยนต์ทำจุดสูงสุดใหม่ Ecosystem ของ UPST ดีขึ้นเรื่อยๆ

4.Product และ AI Model ของ UPST ดีขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้ Partner สามารถ Set Macro Assumption เองได้เลย และระบบจะประมวลผลออกมาให้

5.การบุกตลาดสินเชื่อรายเล็ก รายย่อยเป็นข้อดีคือมันไป Hit Pain ของธนาคารแบบเต็มๆ

6.บริษัทออกระบบสำหรับสินเชื่อ Small-Medium-Business ที่ ธนาคารใหญ่ 77% และธนาคารเล็ก 90% ใช้เป็นระบบ Manual อยู่และไม่มี Online Application UPST ไปตอบโจทย์ตรงนี้ได้

7.สุดท้ายถ้าเทียบ YoY รายได้ยังคงโต 48% ในสถานการณ์ที่ Macro Environment ไม่เอื้ออำนวยแบบสุดๆ ดังนั้นสิ่งสำคัญจริงๆคือปีต่อๆจากนี้ไป 2023-2024-2025 จะยังโตได้แค่ไหนเท่าไหร่ สั้นๆดูอาการหนัก แต่ระยะยาวผมว่าถ้ายัง Maintain Performance ได้แบบนี้ก็ถือว่ายังเป็นหุ้นที่น่าสนใจและอยู่ในเทรนด์ที่เติบโตได้อีกมาก

ถ้าสรุปทั้ง 2 อย่างจะเห็นว่าความ Bear มันชัวร์และใกล้กว่า ส่วนความ Bull มันมีความไม่แน่นอนอยู่เช่นเรื่องการขยายธุรกิจ และเป็นเรื่องของระยะยาว 1-3 ปี รวมๆออกมาเลยเป็นอย่างที่เห็น

ส่วนที่ผมติดอยู่นิดนึงคือเรื่องการเอา Loan มาอยู่บน Balance Sheet นี่แหละ แม้จะเอามาทำเพื่อ R&D มาทำ Model ในตลาด Auto ก็ตาม แต่ความเสี่ยงมันคือ ถ้ารถราคาตก คนที่ซื้อรถไปจะยอมปล่อยให้เป็นหนี้เสียไหม? ส่วนตัวผมเดาว่ายาก แต่ไม่แน่ใจเรื่องการตัดหนี้สูญของหุ้นสหรัฐฯว่ายังไง ตรงนี้ถือเป็นความเสี่ยง เพราะถ้าเป็น Recession จริงไม่ต้องห่วงครับราคารถมือสองยับแน่นอน

อย่างไรก็ตามผมว่าราคานี้ของ UPST ค่อยข้าง Price In ปัจจัยด้านบนไปเยอะพอสมควรจน Valuation ค่อนข้างน่าสนใจในระยะยาว (แต่ระยะสั้นก็ตามเนื้อผ้านะ 555) ส่วนระหว่างทางจะมีปัจจัยอะไรเข้ามาอีกก็ต้องดูกันไปตามสถานการณ์ครับ ฝ่าปีนี้ไปได้ผมว่า UPST น่าจะแกร่งขึ้นอีกเยอะมากๆ

เร็วๆนี้จะมี Deep Dive RBLX ออกมานะครับ อย่าลืมติดตามกันไว้ สมัครสมาชิกกันได้ครับ บทความส่งถึงอีเมลล์เลย ^_^

COMMENTS