เจาะลึก Xpev หุ้นรถไฟฟ้าจีน โตเร็ว  ว่าที่รายใหญ่ตลาดรถไฟฟ้าที่ใหญ่ที่สุดในโลกประเทศจีน

HomeStock

เจาะลึก Xpev หุ้นรถไฟฟ้าจีน โตเร็ว ว่าที่รายใหญ่ตลาดรถไฟฟ้าที่ใหญ่ที่สุดในโลกประเทศจีน

Last Updated on 24/11/2021

วันนี้วันที่ 2 พฤศจิกายน 2564 หุ้น TSLA ขึ้นไปทำจุดสูงสุดใหม่ที่ราคา 1,200 ดอลลาร์ มูลค่าบริษัทราวๆ 1.2 Trillion ในขณะที่บริษัทรถยนต์ไฟฟ้าอื่นๆมีมูลค่าเพียงเสี้ยวเดียวของ Tesla

คำถามที่โผล่ขึ้นมาในหัวผมคือ นี่ Tesla มันแพงเกินไป? หรือบริษัทที่เหลือทั้งหมดมันกากเกินไป เลยราคาถูกอยู่ได้ขนาดนี้?

Xpeng Celebration

ล่าสุด Xpev เพิ่งประกาศส่งมอบรถ Xpeng ไปแล้วกว่า 1 แสนคัน ถือเป็นบทพิสูจน์ที่ดีว่าบริษัทนี้น่าจะรู้แล้วว่าการทำธุรกิจ EV at Scale ต้องทำยังไง

เพราะเอาจริงๆธุรกิจมันละเอียดอ่อนนะครับ ทั้งการผลิต การทำการตลาด การบริหารคน ไหนจะต้องสู้กับการแข่งขันที่มีเสด็จพ่อ Elon เป็นคู่แข่ง มันไม่ง่ายจริงๆ

ความน่าสนใจของหุ้น Xpev

1.เป็นหุ้น EV จีนที่พิสูจน์ตัวเองแล้วว่าสามารถ Manufacture EV at Scale ได้และของที่ผลิตมาดีพอที่ได้ยอดขายที่มีนัยยะ และเติบโตได้

2.ระบบ Xpilot ของ Xpeng ดีวันดีคืน อาจจะไม่เท่า FSD Beta ของ Tesla แต่ก็นับว่าดีพอที่จะให้คนใช้งานขับในเมืองได้เมื่อ Xpilot 4.0 ออกมา

3.เพิ่งออกรถรุ่นใหม่มาคือ Xpeng P5 ที่ราคาโดนมากๆคือ $24000 หลังหัก Subsidies ( อารมณ์ Altis ไฟฟ้าราคา 8 แสนบาทเท่านั้น !!!) ราคาถูกแต่อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีโหดๆเกิน Altis เยอะมาก นอกจาก P5 แล้วก็ยังมีรถ SUV ตัวแรกของบริษัทคือ Xpeng G3 ปรับโฉมใหม่เป็น G3i ยอดขายพุ่งให้เห็นทันที

4.กำลังจะทยอยมีโรงงานใหม่เปิดในปี 2022 และ 2023 ถ้าเปิดหมดจะมี Capacity ราวๆ 4 แสนคัน จากปัจจุบันที่มีอยู่ 1 แสนคัน (อารมณ์ Tesla เมื่อ 2-3 ปีก่อน)

5.ปัจจุบันหุ้นยังขาดทุนอยู่ แต่ถ้าขายรถได้มากขึ้น โอกาส Turn OPM Positive ใน 2-3 ปีมีไม่น้อยเลย

Xpeng ทำอะไร?

Xpeng เป็นบริษัทรถยนต์ไฟฟ้าที่ถือว่าเป็นหนึ่งในผู้นำเลยครับ แม้วอลุ่มจะยังไม่เท่า SAIC (MG) หรือ BYD แต่การเติบโตถือว่ารวดเร็ว และเทคโนโลยีในเชิง Autonomous Driving ก็นับว่าอยู่ในระดับแถวหน้าของจีน

Investor ของ Xpeng ก็เช่น Alibaba Group, Foxconn, Xiaomi และ Sequotia Capital China ถ้า Nio คือบริษัทรถไฟฟ้าฝั่ง Tencent Xpeng คือฝั่ง Alibaba ครับ

ปัจจุบัน Xpeng มีรถ EV 4 โมเดลด้วยกันคือ

  • P7 – รถ Sedan 4 ที่นั่งขนาดเท่า Tesla Model S ในราคาถูกกว่า Model 3 เริ่ม Delivery กลางปี 2020 ที่ผ่านมา
  • P7 X-Wing – Version Premium ของ P7 (อารมณ์ Model S Plaid)
  • G3i – รถ SUV ที่เพิ่ง Facelift ไปและส่งรถในเดือนกันยายน 2021 แต่ G3 รุ่นเก่าขายมาตั้งแต่ปี 2019 ถือเป็นรถยนต์ไฟฟ้าคันแรกของ Xpeng
  • P5 – รถ Sedan 4 ที่นั่งขนาดเล็ก ราคาเทียบเท่ารถ ICE เลยถือว่าเป็นความหวังใหม่ของ Xpeng
  • G9 – รถ SUV ขนาดใหญ่รุ่นใหม่ที่เปิดตัวออกมาแล้ว คาดว่าจะส่งมอบรถได้กลางปี 2022 ตัวนี้ Size พอๆกับ NIO ES8 Margin ดีกว่า G3 (เดี๋ยวผมมาอัพเดทข้อมูลละเอียดๆให้อีกทีนะครับ)

Xpeng G9

Spec รถ ราคา และระยะทางการวิ่งตามด้านล่างเลยครับ ราคาเป็นราคาหลัง Subsidies ของเมืองจีนแล้วนะครับ

Xpeng Price Range

Chinese subsidies

พอดูราคาตรงนี้จะเห็นว่ารถของ Xpeng ทั้งหมดราคาจับต้องได้มากๆ ต่างกับ Nio ที่จะมีความ Premium กว่า ทำให้ปัจจุบันแม้จะส่งมอบรถในปริมาณที่ใกล้เคียงกัน แต่ Nio มีรายได้ที่สูงกว่า และอัตราการทำกำไรดีกว่า

กลยุทธ์การทำรถในตลาด Premium แล้วค่อยลงมาตลาด Mass เป็น Playbook เดียวกันกับที่ Tesla และ Lucid ใช้ครับ Xpeng ถือว่ามาแหวกแนวมากๆ เพราะเปิดมาพี่แกทำตลาด Mass เลย ผลก็คือขาดทุนมากกว่าเจ้าอื่นๆครับ

Xpeng Model

Product ล่าสุด ตัวเล็กสเป็กเทพ Xpeng P5 ความหวังสู่ Autonomous Vehicle ของ Xpeng ราคาถูกมากๆประมาณ 8 แสนบาท สูงกว่า BYD Dolphin ที่ราคา 6 แสนบาท ระยะทางวิ่งพอๆกันที่ 400-500 km แต่ของ Xpeng เพิ่มเงินอีก 2 แสนเป็นตัวท๊อป มี Lidar แถม Xpilot 2.5 ไปให้ใช้ฟรีอีกด้วย เรียกได้ว่า ราคาถูกแต่ Spec เทพ !!! เทพจนผมกลัวแทนนักลงทุนว่า Margin จะออกมาเป็นยังไงเนี่ย

ด้วยความที่ของมันดีขนาดนี้ทำให้ยอดจองของ P5 พุ่งทะลุอวกาศมากๆครับ ผมไปได้ข้อมูลจาก Reddit มาคือยอดจองของ P5 จัดไปมากกว่า 63,000 คันแล้ว แต่ก็นะค่าจองมันแค่ 99 หยวนถ้าผมจำไม่ผิดนะครับ คือไม่เอาก็ทิ้งได้ง่ายๆ คงต้องดูว่าตอนส่งมอบได้จริงๆแค่ไหน

สุดท้ายยอดขายรถเป็นยังไง? ตั้งแต่ P7 เปลี่ยนแบตเตอรี่เป็น LFP ก็ขายดีขึ้น G3i เปลี่ยนโฉมยอดก็เริ่มมา P5 ตอนนี้ก็เริ่มส่งมอบแล้วแต่ยังไม่ได้เห็นยอดอย่างมีนัยยะอาจต้องใช้เวลาซักพัก แต่ตอนนี้ Xpeng มียอดส่งมอบรถรวมๆเกินเดือนละ 10000 คันไปแล้ว แซงหน้า Nio ไปตั้งแต่เดือนกันยายน โดยตัวที่ยอดขายมาแรงมากคือ G3i ซึ่งเป็น SUV

Xpeng Deliveries

หลายคนอาจจะเห็น Xpev เป็นบริษัทรถไฟฟ้า แต่ผมว่าถ้าจะลงทุนในหุ้นรถไฟฟ้าตอนนี้ ต้องมองเผื่อไปรถยนต์ไร้คนขับแล้ว

ตอนเลือกหุ้นมาดูผมเลยพยายามหาหุ้นที่มีการทำระบบ Autonomous ที่เริ่มใช้งานได้จริง และมีผลงานให้เห็นบ้างแล้ว

ปัจจุบัน NGP Penetration rate ของ P7 อยู่ที่ 60% หมายความว่าคนที่ใช้รถ P7 ใช้ NGP เมื่ออยู่ใน Highway ที่ใช้ได้ถึง 60% ของระยะทางการวิ่งทั้งหมด

ระบบอาจจะยังไม่ได้ดีมากแต่คนเริ่มใช้เยอะ และใช้บ่อยถือว่าเป็น Sign ที่ดีสำหรับ Xpeng ครับ

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นยังไม่มีระบบไหนที่จะเป็น Full Self-Driving ที่ขึ้นรถไปแล้วนอนหลับได้เลย เป็น End-to-End Autonomous Driving น่าจะต้องใช้เวลาอีก 2-3 ปีเป็นอย่างน้อย

Xpeng Factory

จุดสำคัญอีกจุดหนึ่งที่ผมอยากจะ Point Out สำหรับ Xpeng เลยคือเรื่องโรงงานผลิตครับ Nio ไม่ได้มีโรงงานเป็นของตนเอง Xpeng มีโรงงานเป็นของตนเองคือโรงงานหลัก Zhaoqing ที่ผลิต Xpeng P7 ส่วน G3 ผมเข้าใจว่าใช้โรงงานของ Outsource ผลิตให้

ประเด็นในตอนนี้คือ Xpeng Deliver รถเดือนละ 10000 คันแล้ว โรงงานที่ ​Zhaoqing มี Capacity ปีละ 1 แสนคัน ตอนนี้ Xpeng เลยประกาศเพิ่มกำลังการผลิตอีก 100,000 คันที่ Zhaoqing รวมเป็น 200,000 คันต่อปี

และเพิ่มโรงงานใหม่ใน Guangzhou กำลังการผลิต 100000 คัน โรงงานใน Wuhan 100000 คัน และ Chongqing (ยังไม่ Confirm)

กำหนดการเปิดของ Zhaoqing เฟส 2 และโรงงาน Guangzhou อยู่ปลายปี 2022 แปลว่าณ.ต้นปี 2023 กำลังการผลิตของ Xpeng จะเพิ่มจาก 100,000 คันเป็น 300,000 คัน

หลังจากนั้นโรงงาน Wuhan ตามมาปลายปี 2023 แปลว่า 2024 ต้องมีกำลังการผลิต 400,000 คัน เติบโต 4 เท่าจากณ.ตอนนี้

Xpeng Factory

งบการเงินของ Xpeng

Definition สั้นๆ ยังห่างไกลจากกำไร TT แม้รายได้จะเติบโตดี และโตอย่างรวดเร็ว แต่ด้วยกลยุทธ์ของ Xpeng ที่เล่น Mass เลยตั้งแต่เริ่มต้น เลยขาดทุนยับ แต่จุดดีคือผมเดาว่าการขาดทุนยับแบบนี้น่าจะถึงจุด Bottom แล้วถ้ามองไปข้างหน้าในอีก 1-2 ปี Xpeng น่าจะเริ่มเข้าสู่จุดที่มีการ Deliver รถใน Scale ที่มากจนเริ่มมีกำไรที่ดีขึ้น และน่าจะเห็น Operating Margin เริ่มขยับเข้าใกล้แดนบวกมากขึ้นครับ

Xpeng Revenue

รายได้มีการเติบโต 536% ตัวเลขดูเยอะเพราะเทียบกับไตรมาส 2 ปีที่แล้วซึ่ง P7 ยังไม่ได้เริ่มส่งมอบครับ ไตรมาส 3 ปี 2021 งบน่าจะออกมาเติบโตมากกว่า 100% ขึ้นไปเพราะมีการส่งมอบรถเยอะขึ้นมาก เมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ปี 2020 ส่วนไตรมาส 4 2021 ไปจนถึงไตรมาส 3 2022 ยอดขายน่าจะโตได้ไม่มากเท่าไหร่แล้วเพราะกำลังการผลิตของโรงงาน Zhaoqing น่าจะเต็มไม่ก็ปริ่มๆมาแล้ว

การส่งมอบรถของ Xpeng

ในมุมของงบการเงินไตรมาส 3 ปี 2021 งบกับ Earning Call ล่าสุดที่ออกมามีมุมที่น่าสนใจหลายมุมครับ

รายได้จากการส่งมอบรถสูงขึ้นกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ แถมเป้าไตรมาส 4 จะโหดกว่าไตรมาส 3 อีกราวๆ 20-30% เดือนธันวาอาจส่งมอบรถได้มากถึง 15000 คัน จากตอนนี้ 10000 คัน

Average Monthly Utilisation rate ของ NGP ขึ้นมากกว่า 60% คนขับรถ Xpeng ที่มี NGP มีการใช้งานอย่างน้อย 1 ครั้งในรอบเดือนเป็นจำนวน 60% ของทั้งหมด

Xpilot 4.0 ที่จะ Launch ในปี 2024 จะ Support Autonomous Driving ในยุโรปด้วย

Gross Margin ดีขึ้นเยอะมากอยู่ที่ 14.4% จากไตรมาสก่อนอยู่แถวๆ 12% จากการสัดส่วนขาย Model ใหม่ที่ราคาดีขึ้นเช่น P7 และ G3i

ตอนนี้รถทั้งหมดแทบจะมาผลิตที่โรงงาน Zhaoqing ของ Xpeng หมดแล้วดังนั้นอัตรากำไรจึงดีขึ้นด้วย

ส่วนกำไรขาดทุนหนักกว่าเดิมตามคาด ค่าใช้จ่าย R&D เพิ่มขึ้น 99% YoY จากการพัฒนาโมเดลใหม่ P5 และ G9 ค่าการตลาดเพิ่มขึ้น 28% จากงบโฆษณาและค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายให้ Dealer ในมุมงบการตลาดผมว่าต่ำกว่าที่คาดเยอะพอสมควรเพราะหลังๆผมเห็น Xpeng ทำการตลาดโฆษณาเยอะมา ส่วนตัวยังเสียวๆว่าจะขาดทุนหนักไหมเนี่ย -*-

ในงบมี Subsidies ของรัฐบาลจีนด้วยแต่ก็ Offset กับค่าใช้จ่ายการย้ายและปรับปรุงโรงงานที่ Haima

ทั้งนี้ทั้งนั้นภาพรวมงบการเงินออกมา Beat Estimate ของนักวิเคราะห์ครับ ซึ่งจริงๆก็ Beat มา 2-3 ไตรมาสติดๆกันแล้ว

Outlook ไตรมาส 4 น่าจะส่งมอบรถได้ 34500 – 36500 คัน ตุลาคมส่งไปแล้ว 10412 คัน แปลว่าเดือนพย. และธค.ถ้าหารเท่าๆกันต้องส่งอีก 13000 คันถึงจะได้ตามเป้า หรืออาจจะเป็น 11000 คันในพย. แล้ว 15000 คันในธค. ก็ได้ เพราะใน Earning Call บริษัทบอกไว้ว่าจะ Deliver ให้ได้เดือนละ 15000 คัน

ไกลๆ Xpeng บอกจะ Explore การทำ Robotaxi ในช่วง 2H2022 หลังจากที่ Launch Xpilot 3.0

P5 ตอนนี้ราคาเทียบเท่ารถ ICE แล้วจ้า (แต่ศักยภาพดีกว่าเยอะเหอๆ) คิวรับรถรอยาวไปถึงหลังตรุษจีน 50% ของยอด Backlog ตอนนี้คือรถตัวท็อปที่ใช้ Xpilot ได้ บางโมเดลต้องรอรถ 4 เดือน

ถ้าชิ้นส่วนขาดแคลน 80% ของลูกค้าคนจีนเลือกรับรถเลยแล้วค่อยมาติดชิ้นส่วนที่ขาดทีหลัง เช่นพวก Sensor เลยทำให้ Xpeng อาจจะได้รับผลกระทบจากชิ้นส่วนขาดแคลนน้อย

ตอนนี้ Xpeng มีสาขา 271 สาขา (ประมาณ 40% เป็นแฟรนไชส์) ปลายปีจะมี 350 สาขา

โรงงาน Xpeng ตอนนี้ผลิตรถ 20 ชม.ต่อวันแล้ว หลังจากโรงงาน Guangzhou และ Wuhan เสร็จจะมี Cap ประมาณ 4 แสนคันต่อปี (เสร็จปลายปี 2022-ต้นปี 2023) ถ้าทำ Double shift จะผลิตได้ถึง 6 แสนคันต่อปี

รายได้รวมของ Xpeng ปี 2021 นี้น่าจะจบได้ที่ 7.1 – 7.5 Billion Yuan ($1.17 Billion)

เป้ารายได้ในอนาคต 3-5 ปีข้างหน้า Xpeng จะมีรายได้จากการขายรถ 50% มาจากนอกประเทศจีน

ความเสี่ยงของ Xpeng

  • Subsidies ของจีนน่าจะหมดในปี 2022
  • ถ้ากำลังซื้อรถจีนดีขนาดนี้เดี๋ยว Giga Factory ก็ต้องขยายเพิ่ม ถ้า Tesla Model 2 มา ผมว่า P5 น่าจะเหนื่อย
  • ปัจจุบัน Xpeng ยังอยู่ได้ด้วยการช่วยเหลือของรัฐบาลจีน ซึ่งก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะช่วยไปถึงจุดไหน แล้วจุดไหนที่จะหยุด

ด้วยความเสี่ยงทั้งหมดนี้ทำให้ผมมอง Xpeng ใหม่ และรู้สึกว่า Value ที่บริษัทได้รับไม่ได้ถูกมากอย่างที่คิด แต่การที่บริษัทจะสามารถมีกำไร และมีกระแสเงินสดที่เป็นบวกได้ในอีก 2-3 ปีข้างหน้ายังทำให้ผมคิดว่าหุ้นตัวนี้ยังน่าสนใจ ในฐานะผู้ผลิต EV จีนรายใหญ่ของโลก แต่การที่จะได้ Value แบบ Tesla ได้ ด้วยสถานะปัจจุบันบอกเลยว่ายากมาก ด้วย Pace แบบนี้ยังไงก็ยังตาม Tesla อยู่อย่างน้อย 2-5 ปี ครับ

ชอบบทความวิเคราะห์หุ้นรายตัวแบบนี้สามารถติดตามผ่าน FB Page: เทรนด์ลงทุน และ LINE@Trendlongtun ครับ

ใครชอบอ่านแบบละเอียดๆเป็น Research แนะนำไปอ่านที่ Deep Dive Analysis หุ้น Xpev กันได้เลยครับ อย่าลืม Subscribe กันไว้ด้วยนะครับ ^^

COMMENTS